ธปท.มองแนวโน้มเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่เป็นอุปสรรคการฟื้นตัวศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 3, 2009 13:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุชาติ สักการโกศล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจภายในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อ เดือน ต.ค.52 ที่ปรับสูงขึ้นเป็นบวก 0.4% เป็นผลจากฐานเงินเฟ้อช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับต่ำ และมองว่าแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะต่อไปจะสูงขึ้น แต่ดัชนีผู้ผลิต (PPI) จะยังคงติดลบอยู่

ทั้งนี้ หากมองเงินเฟ้อในระยะสั้นช่วง 3 เดือน คาดว่ายังไม่มีปัญหา โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ในกรอบประมาณการ 0.5-3.0% ยกเว้นมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนที่จะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค.52 ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าที่ถูกกดไว้อาจจะเร่งตัวขึ้น และจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นตาม

แต่อัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวเป็นประเด็นด้านนโยบาย ไม่ใช่เพราะความต้องการบริโภคที่สูงขึ้น ดังนั้น เงินเฟ้อพื้นฐานยังน่าจะอยู่ในกรอบ และยังไม่ได้เป็นข้อจำกัดต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ประกอบกับ ราคาน้ำมันในปี 53 เชื่อว่ายังไม่ปรับสูงขึ้น โดย ธปท.ประมาณการว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 53 เร่งตัวขึ้นจาก 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ ซึ่ง ธปท.มองว่าราคาน้ำมันจะไม่เร่งตัวขึ้นมากเหมือนช่วงที่ผ่านมา ยกเว้นมีปัจจัยอื่นเข้ามาเสริม

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินนโยบายการเงินที่เชื่อมโยงกับอัตราเงินเฟ้อ ขณะนี้ยังคงไม่มีแรงกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการเงิน โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ล่าสุดประมาณการว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบคาดการณ์ตลอดช่วง 8 ไตรมาสข้างหน้า ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำยังเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจก็ยังไม่ได้กลับมาขยายตัวดีมาก

ขณะเดียวกัน ธปท. จะติดตามปัญหาเศรษฐกิจในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่สหรัฐออกมาประกาศว่าสถาบันการเงินยังไม่ได้รับความช่วยหลืออย่างเต็มที่ ซึ่ง ธปท. ได้นำมาเป็นปัจจัยในสมมติฐานการคำนวณประมาณการจีดีพีของไทยในปี 53 แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ