สหภาพยุโรป (อียู) ได้ยกระดับการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปว่าจะดีดตัวขึ้น 0.7% ในปี 2553 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนพ.ค.ว่าจะหดตัวลง 0.1% โดยชี้ว่า เศรษฐกิจจะดีดตัวดีเกินคาดในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัวในระดับที่ชะลอตัวลงในช่วงต้นปีหน้า
โดยอียูคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ จะขยายตัว 0.7% ในปี 2553 และ 1.6% ในปี 2554 หลังจากที่หดตัว 4.1% ในปี 2552
ขณะที่ในกลุ่มยูโรโซน หรือประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศ จะขยายตัว 0.7% เช่นกันในปีหน้า และ 1.5% ในปี 2554 หลังจากที่หดตัว 4.0% ในปีนี้
อียูชี้ว่า ในระยะใกล้นี้ เศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นเพราะปัจจัยแวดล้อมภายนอกและสถานการณ์ทางการเงินดีขึ้น รวมถึงผลพวงจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานจะยังคงอ่อนตัว และคาดว่าอัตราว่างงานในกลุ่มอียูจะอยู่ที่ 10.25% ส่วนหนี้สาธารณะ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.5% ของ GDP ปีหน้า ก่อนที่จะอ่อนตัวลงในปี 2554 เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวและทั่วโลกยกเลิกการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โจอาควิน อัลมูเนีย คณะกรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจและการเงินอียู กล่าวว่า เศรษฐกิจกลุ่มอียูกำลังจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอย เนื่องจากการใช้มาตรการสนับสนุนของรัฐบาล ธนาคารกลาง ซึ่งอียูไม่เพียงแต่จะใช้มาตรการป้องกันภาวะวิกฤตอีกระลอกอย่างเป็นระบบเท่านั้น แต่ยังช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกด้วย อย่างไรก็ดี หนทางข้างหน้ายังมีความท้าทาย การใช้มาตรการอย่างเต็มที่และการช่วยเหลือธุรกิจการธนาคารเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะจะช่วยสนับสนุนให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน