สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์การลงทุนในทองคำยังคงแข็งแกร่งในตลาดโลก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,084.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 30.90 ดอลลาร์ หลังจากที่เคลื่อนตัวในช่วง 1,055.50-1,088.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.180 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 74.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ แตะที่ 2.956 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,356.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 18.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 327.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์
เดวิด เบห์ม รองประธานฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจจากบริษัท บลองชาร์ด แอนด์ โค กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาทองคำอย่างหนาแน่นหลังจากมีข่าวว่าไอเอ็มเอฟประกาศขายทองคำน้ำหนัก 200 เมตริคตันให้ธนาคารกลางอินเดีย มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟให้นำออกขายทั้งสิ้น 403.3 ตัน
ไอเอ็มเอฟซึ่งเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและเยอรมนี นำทองคำออกขายเพราะมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศยากจน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังพร้อมที่จะขายทองคำโดยตรงให้กับธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก
รายงานระบุว่า นอกเหนือจากอินเดียแล้ว จีนและรัสเซียได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟ เพื่อต้องการนำเงินในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมากระจายความเสี่ยง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอลงและทำให้สินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ด้อยค่าลงด้วย