ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่าบริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของ นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ตกลงเข้าซื้อบริษัทเบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัททางรถไฟขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการประกาศในคืนพุธที่ 4 พ.ย.ตามเวลาประเทศไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 17.53 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 9,771.91 จุด แต่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 2.53 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 1,045.41 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 2,057.32 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานและข้อมูลภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวขึ้นของสหรัฐจะช่วยให้ดีมานด์พลังงานเพิ่มขึ้นด้วย อีกทั้งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้ด้วย
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.88% ปิดที่ 79.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.55-79.77 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งบ่งชี้ว่าดีมานด์การลงทุนในทองคำยังคงแข็งแกร่งในตลาดโลก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,084.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 30.90 ดอลลาร์ หลังจากที่เคลื่อนตัวในช่วง 1,055.50-1,088.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.180 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 74.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ แตะที่ 2.956 ดอลลาร์/ปอนด์
-- ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องและการปรับโครงสร้างของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ และการประชุมธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4714 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4768 ยูโร/ดอลลาร์ และทะยานขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0261 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0260 ฟรังค์/ดอลลาร์
หากเที่ยบกับสกุลเงินปอนด์ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.16% แตะที่ 1.6417 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.6390 ปอนด์/ดอลลาร์ และทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.330 เยน/ดอลลาร์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากธนาคารยูบีเอสรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ และข่าวที่ว่าทางการอังกฤษยื่นมือช่วยเหลือกิจการรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และข่าวการระดมทุนของลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 67.29 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 5,037.21 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,985.09-5,104.50 จุด