ครม.ผ่านแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะ 2-หนุนตั้ง"ไมโครไฟแนนซ์"

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 4, 2009 13:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)เห็นชอบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เสนอ โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (2553-2557) และมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนของระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสถาบันการเงิน ทั้งการลดต้นทุนจากกฎระเบียบของทางการที่อาจมีผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของสถาบันการเงิน และต้นทุนค่าเสียโอกาส, ลดต้นทุนของระบบจากสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ทั้ง NPL และ NPA ที่ยังคงค้างอยู่ในระบบสถาบันการเงิน

นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมการแข่งขันและการเข้าถึงบริการทางการเงิน ให้ระบบสถาบันการเงินมีความมั่นคงเป็นหลักที่แข็งแกร่งแก่ระบบเศรษฐกิจได้ สนับสนุนบทบาทของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีการอนุญาตให้มีผู้ให้บริการรายใหม่ในระบบสถาบันการเงินโดยไม่จำกัดสัญชาติ ส่งเสริมให้สถาบันการเงินมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยการควบรวมโดยสมัครใจ

อีกทั้งส่งเสริมเพื่อให้ประชาชนกลุ่มต่างๆ เข้าถึงบริการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยและผู้มีรายได้น้อย เช่น เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการรายใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินฐานราก(ไมโครไฟแนนซ์)เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม ซึ่งทางกระทรวงการคลัง และ ธปท.จะพิจารณาใบอนุญาตเป็นรายกรณี

นอกจากนี้ เป็นการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่จำเป็นใน 5 ด้าน คือ การเพิ่มศักยภาพและเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านเครดิต ด้านตลาด ด้านสภาพคล่อง และการชำระเงิน, การพัฒนาระบบข้อมูลสำหรับการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงิน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการวางกลยุทธ์และขยายบริการให้ทั่วถึง,

การปรับปรุงกฎหมายทางการเงินที่สนับสนุนการบริหารความเสี่ยงของสถาบันการเงินในด้านสินเชื่อและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ, ส่งเสริมสักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประเสิทธิภาพและลดต้นทุนการให้บริการทางการเงิน และ ส่งเสริมศักยภาพบุคลากรในระบบสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ หลังจากที่แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 ได้รับความเห็นชอบในกรอบนโยบายแล้วจะมีการตั้งกรรมการเพื่อดูแลการปฏิบัติการ โดยมีรมว.คลัง เป็นประธาน และธปท.จะชี้แจงทำความเข้าใจกับสถาบันการเงินทุกแห่งภายในเดือนพ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ