ออโต้ ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเล็กประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐมีอยู่ทั้งสิ้น 838,000 คัน เพิ่มขึ้น 12% จากเดือนก.ย. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดรถยนต์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ และยังบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วย
-- คณะกรรมการบริหารของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ได้ลงคะแนนเสียงให้คงธุรกิจของโอเปิลไว้ แทนที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับบริษัท แม็กน่า อินเตอร์เนชั่นแนล และพาร์ทเนอร์อย่าง OAO Sberbank เนื่องจากสถานการณ์ในบริษัทเริ่มดีขึ้นและบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านกลยุทธ์ของแบรนด์
-- บริษัท เบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ของ นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ตกลงเข้าซื้อบริษัท เบอร์ลิงตัน นอร์ทเธิร์น ซานตาเฟ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทสร้างทางรถไฟขนาดใหญ่ และเป็นการลงทุนที่บัฟเฟตต์ระบุว่าเขายอม "เทหมดหน้าตัก" เพราะมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ย.ร่วงลง 0.2% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะพุ่งขึ้น 0.5% ทำให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงจะส่งผลให้ธนาคารกลางออสเตรเลียพักการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา
-- วอล์ท ดิสนีย์ ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีนให้สร้างสวนสนุกที่เซี่ยงไฮ้ หวังสร้างรายได้จากสวนสนุกรายใหญ่อันดับ 2 ของบริษัท ซึ่งการอนุมัติจากรัฐบาลจะช่วยปูทางไปสู่การทำข้อตกลงด้านการก่อสร้างและการดำเนินการในขั้นสุดท้าย
-- นายมาร์ติน เฟอร์กูสัน รมว.พลังงานออสเตรเลียเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะตั้งทีมตรวจสอบหาสาเหตุการรั่วไหลของน้ำมันกว่า 30,000 บาร์เรลในทะเลติมอร์ ซึ่งเป็นน้ำมันจากแท่นขุดเจาะของบริษัทในเครือบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จนเป็นเหตุให้นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียระงับใบอนุญาตการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันครั้งใหม่
-- นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า จีนจะดำเนินการเพื่อปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และล่าสุด จีนก็เดินหน้าไปในทิศทางที่จะทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ขณะที่ทางไอเอ็มเอฟมองว่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าเกินจริง
-- รัฐบาลสหรัฐและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศออกโรงเชิญชวนชาวต่างชาติให้เดินทางเยือนสหรัฐ แม้ว่าได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
-- ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ขึ้นจากเดิมที่ 7.2% เป็น 8.4% พร้อมทั้งแนะว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน หากรัฐบาลเบนเข็มมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายผู้บริโภค มากกว่าที่จะมุ่งเน้นภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน
-- ธนาคารโลกแนะนำรัฐบาลจีนให้ลงมือดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากทางการจีนเปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยวงเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.27 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้
-- ไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก เตรียมดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 หลังจากที่เอาชนะ วิลเลียม ธอมป์สัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งวันอังคารที่ผ่านมา
-- ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานรอบครึ่งปีวันนี้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกจะขยายตัว 6.7% ในปีนี้ และ 7.8% ในปีหน้า หลังจากรัฐบาลในภูมิภาคใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่และประกาศใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะขยายตัว 4.3% ในปีนี้ และ 5.4% ในปีหน้า เศรษฐกิจมาเลเซียจะหดตัว 2.3% ในปีนี้ และจะขยายตัว 4.1% ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะหดตัว 2.7% ในปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัว 3.5% ในปีหน้า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะขยายตัว 1.4% ในปีนี้ และขยายตัว 3.1% ในปีหน้า และเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.5% ในปีนี้ และขยายตัว 6.5% ปีหน้า
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 6.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยธนาคารกลางระบุว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศยังไม่สูงพอที่จะทำให้ธนาคารปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะนี้
-- นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ได้พบกับนางออง ซาน ซู จี เลขาธิการพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของพม่า ที่โรงแรมอินยาเลกในกรุงย่างกุ้งวันนี้ ภายใต้การเตรียมการของรัฐบาลทหารพม่า
-- นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงอียิปต์วานนี้ ด้วยความหวังที่จะผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในกระบวนการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง ตลอดจนคลี่คลายความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐในสายตาของประเทศอาหรับ ซึ่งเธอจะได้เข้าพบประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ของอียิปต์