ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) พร้อมกับย้ำว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และระบุว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน
ภายหลังจากเฟดมีมติคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุดแล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุม ซึ่งใจความบางตอนระบุว่า "การที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่กรอบ 0-0.25% นั้นมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ข้อมูลที่เฟดรวบรวมได้บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีบางภูมิภาคที่เศรษฐกิจยังคงซบเซา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตลาดการเงินค่อนข้างทรงตัว แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้ดี ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อัตราว่างงานภายในประเทศยังคงพุ่งสูงขึ้น รวมทั้งการขยายตัวด้านรายได้ค่อนข้างต่ำ และตลาดสินเชื่อยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว"
"ส่วนในภาคเอกชนยังคงลดการลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวรและลดการจ้างงาน แต่ก็ปรับลดในอัตราที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ภาคเอกชนกำลังเพิ่มสินค้าในสต็อกเนื่องจากยอดขายปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ เฟดเชื่อว่าการที่คณะกรรมการเฟดใช้นโยบายสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน และกระตุ้นเศรษฐกิจและการคลังในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง และจะทำให้อัตราการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ดีดตัวขึ้นสู่ระดับปกติ โดยจะไม่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ"
"จากการประเมินเศรษฐกิจในเบื้องต้น ทำให้คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 0-0.25% และจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฟดเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว คณะกรรมการเฟดยังเห็นชอบที่จะลดวงเงินในการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ให้เหลือเพียง 1.75 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 2 แสนล้านดอลลาร์" แถลงการณ์ของเฟดระบุ บลูมเบิร์กรายงาน