สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นอีก 2.40 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) โดยสัญญาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เพราะได้ปัจจัยบวกข่าวธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,087.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,080.50-1,096.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 17.405 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 2.993 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,369.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 13.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 328.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์
จอร์จ มิลลิง สแตนลีย์ เจ้าหน้าที่จากสภาทองคำโลกกล่าวว่า นอกเหนือจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างหนักหลังจากเฟดส่งสัญญาณการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำแล้ว ตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟ น้ำหนัก 200 เมตริคตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปริมาณเกือบครึ่งหนึ่งของทองคำที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟให้นำออกขายทั้งสิ้น 403.3 ตัน
ไอเอ็มเอฟซึ่งเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและเยอรมนี นำทองคำออกขายเพราะมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศยากจน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังพร้อมที่จะขายทองคำโดยตรงให้กับธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก