นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนธุรกิจที่ปรึกษาออกแบบก่อสร้างในต่างประเทศด้วยการเจาะตลาด เนื่องจากมูลค่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของโลกมีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านล้านบาท/ปี เฉพาะในตลาดเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง มีมูลค่าราว 70 ล้านล้านบาทหรือ 50% ของมูลค่าทั่วโลก
ขณะที่ภาคธุรกิจไทยมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ไม่ถึง 1% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งโลก และมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศช่วงรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าราว 9 แสนล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 9-10% ต่อจีดีพีเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดงานเสวนาเรื่อง"นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบและก่อสร้างในต่างประเทศ"ถึงแนวทางของรัฐบาลว่า ต้องการชักชวนภาคธุรกิจให้เข้ามาลงทุนโครงการก่อสร้างในแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งหากคิดเฉพาะโครงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 7 แสนล้านบาท ก็จะสามารถสร้างงานได้ 1.5 ล้านคน โดยเฉพาะภาคการออกแบบอสังหาริมทรัพย์ที่ไทยเคยได้รับรางวัลมาแล้วในหลายภูมิภาค
นอกจากนี้ภาครัฐได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการผู้แทนการค้าไทย ที่มีนายเกียรติ สิทธิอมร เป็นประธาน รับผิดชอบประสานงานกับ 5 สมาคมและสถาบันการเงิน ร่วมกันวางยุทธศาสตร์เชิงนโยบายพร้อมกับมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) ไปดูในเรื่องข้อกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งองค์กรถาวรในการส่งเสริมการบุกตลาดต่างประเทศ
"จะมีการสนับสนุนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการออกแบบอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ โดยขณะนี้บีโอไอจะเป็นผู้ร่างข้อกฏหมายเชื่อว่าจะสามารถจัดทำข้อกฎหมายเสนอรัฐสภาได้ใน 1 ปีนี้ ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นตัวกลางในการสนับสนุนด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากภาครัฐพร้อมสนับสนุนทางการเงินให้เอกชนเข้าไปลงทุนต่างประเทศแล้ว กระทรวงการต่างประเทศจะช่วยประสานไปยังสถานทูตทุกแห่งทั่วโลกสนับสนุนการให้คนไทยไปทำงานในประเทศนั้นๆ ได้ง่ายมากขึ้น พร้อมสนับสนุนการขยายผลการเชื่อมโยงภาคธุรกิจวัสดุ และอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงการพัฒนาสถาปนิก, วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญให้เกิดการดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
อนึ่ง 5 สมาคมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ได้ยื่นข้อเสนอมาตรการเร่งด่วน เพื่อขอให้รัฐบาลเร่งเปิดตลาดในต่างประเทศ 6 ประเทศ คือ ลิเบีย, บาเรนห์, กาตา, อินเดีย, เวียดนาม และบรูไน รวมถึงการจัดตั้งองค์กรถาวรในการส่งเสริมสนับสนุนการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในการเจาะตลาดต่างประเทศ