ยูนิลีเวอร์ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รายงานผลกำไรและยอดขายในไตรมาส 3 ที่สูงกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ หลังจากที่บริษัทได้ใช้มาตรการลดราคาสินค้าในยุโรปเพื่อดึงดูดผู้ซื้อที่กำลังรัดเข็มขัดในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
รายได้ ซึ่งไม่รวมการซื้อธุรกิจและความผันผวนของค่าเงิน ปรับตัวขึ้น 3.4% มากกว่าค่าเฉลี่ย 3% ของนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์สำรวจความคิดเห็น ขณะที่รายได้สุทธิลดลง 2% แตะ 1.02 พันล้านยูโร
ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.05 พันล้านยูโร (1.56 พันล้านดอลลาร์) ร่วงลง 36% จากระดับ 1.64 พันล้านยูโรในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรในปีที่แล้วได้รวมรายได้จากการขายธุรกิจหลายแห่งไปด้วย โดยตัวเลขกำไรไตรมาส 3 มากกว่าระดับคาดการณ์ที่ 997 ล้านยูโร
ทั้งนี้ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พอล โพลแมน ก็ได้สัญญาว่าจะกระตุ้นการเติบโตของยอดขาย ซึ่งตามหลังคู่แข่งรายใหญ่อย่าง พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และ เนสท์เล่ มานาน โดยเขาได้ตัดสินใจลดราคาผลิตภัณฑ์ เพิ่มงบโฆษณา และเร่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ส่งผลใหยูนิลีเวอร์สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น 3.6% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการขยายตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน หลังจากที่ปรับตัวลงมา 2 ไตรมาสก่อนหน้านั้น
ยูนิลีเวอร์ระบุว่า ปริมาณการขายโตขึ้นในทุกตลาดทั่วโลก และทั่วทุกหมวดผลิตภัณฑ์หลักๆของบริษัท โดยในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ซึ่งรวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ ปริมาณการขายโต 2.6% ดีกว่าระดับคาดการณ์ที่ 1.8%