ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบาง หลังจากอัตราว่างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2526 อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นรุนแรงจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4846 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4880 ยูโรต่อดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0170 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.0156 ฟรังค์ต่อดอลลาร์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6613 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.6590 ปอนด์ต่อดอลลาร์ แต่ร่วงลง 0.90% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.920 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 90.740 เยนต่อดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.69% แตะที่ 0.9174 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9111 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 0.32% แตะที่ 0.7243 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7220 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์
อดัม บอยตัน นักวิเคราะห์จากดอยช์แบงค์ กล่าวกับเอพีว่า นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพราะมองว่าสหรัฐยังคงเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ร่วงลง 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะลดลง 175,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 219,000 ตำแหน่
"อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2526 อาจกดดันให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกค่อนข้างนาน ซึ่งความวิตกกังวลเช่นนี้ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอีก" บอยตันกล่าว
มูฮัมหมัด เอล เอเรียน ซีอีโอบริษัท แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก และรามิน โตลูลี รองประธานบริหารพิมโค กล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ว่า กระแสความวิตกกังวลที่มีต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลกกำลังส่งผลกระทบต่อบทบาทของสหรัฐอเมริกาในเวทีเศรษฐกิจโลก ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกของสหรัฐคือหนี้สินภาคครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น