"โอบามา" เร่งทบทวนนโยบายจ้างงาน หลังอัตราว่างงานเดือนต.ค.สหรัฐพุ่งแตะ 10.2%

ข่าวต่างประเทศ Saturday November 7, 2009 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อัตราว่างงานประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 26 ปี ส่งผลให้คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เร่งทบทวนแผนกระตุ้นการจ้างงานภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 7.87 แสนล้านดอลลาร์

"ทีมเศรษฐกิจของผมกำลังเร่งทบทวนนโยบายกระตุ้นการจ้างงาน ซึ่งครอบคลุมดึงการลงทุนเพิ่มขึ้นในโครงการสร้างถนนและสะพาน หรือเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและกระตุ้นการจ้างงาน เพราะการอัดฉีดเงินในโครงการก่อสร้างจะช่วยให้การจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ทีมงานของเรายังพิจารณาเพิ่มอัตราการไหลเวียนของเงินลงทุนในธุรกิจขนาดเล็ก" โอบามากล่าวที่ทำเนียบขาวหลังกระทรวงแรงงานเปิดเผยข้อมูลจ้างงาน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนต.ค.ร่วงลง 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะลดลง 175,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 219,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐยังอยู่ในภาวะที่ตึงตัวมาก

โอบามายังกล่าวด้วยว่า อัตราว่างงานและตัวเลขจ้างงานในเดือนก.ย.เป็นตัวเลขที่สร้างความผิดหวังและน่ากังวลใจเป็นอย่างยิ่ง แม้รัฐบาลได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการเงิน การลดหย่อนภาษี และการคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับต่ำ ทั้งนี้ โอบามายืนยันว่าทางรัฐบาลจะหาทางแก้ไขวิกฤตการณ์แรงงานภายในประเทศ ด้วยพิจารณาทั้งทางเลือกเดิมที่มีอยู่และทางเลือกใหม่ๆที่จะกระตุ้นการจ้างงานให้ฟื้นตัวขึ้น บลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ