เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้าวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลกลุ่มประเทศจี-20 เห็นพ้องที่จะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและยังไม่แตะประเด็นการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
เงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันในตลาดหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เทรดเดอร์อาจใช้เงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรม carry trade ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นหลังบริษัทฟอนเทียร์ร่า คอร์เปอเรทีฟ กรุ๊ป ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ที่สุดในโลกปรับเพิ่มคาดการณ์ราคานมขึ้น 19% ในช่วงที่อุปสงค์ทั่วโลกกระเตื้องขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 8:48 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4868 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4847 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์เทรดที่ระดับ 89.89 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.88 เยน/ดอลลาร์ และเงินเยนร่วงลงมาอยู่ที่ 133.63 ยูโร/เยน จากระดับ 133.45 ยูโร/เยน
โยห์ นีเฮอิ นักวิเคราะห์จากโตไก โตเกียว ซีเคียวริตี้กล่าวว่า "ในภาพรวมดูเหมือนว่า นักลงทุนยังไม่ต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากนัก เงินดอลลาร์น่าจะยังเผชิญกับแรงกดดันที่จะถูกเทขายเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า"
โดยนายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมจี-20 กล่าวว่า ที่ประชุมตัดสินใจคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จนกว่าเราจะมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแท้จริง"