รัฐบาลจากกลุ่มประเทศจี-20 ส่งสัญญาณเตือนว่า ภาคธุรกิจธนาคารจะเผชิญแรงกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายในการปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือภาคธุรกิจต่างๆในอนาคต โดยที่ประชุมได้หารือถึงการเก็บภาษีด้านการทำธุรกรรมการเงินเพิ่มมากขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ประชุมจี-20 ได้ร่วมประชุมกันที่กรุงเซนต์ แอนดรูส์ ในสก็อตแลนด์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือถึงวิธีการกู้วิกฤตในภาคอุตสาหกรรมการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หลังจากที่ผ่านมาธนาคารยักษ์ใหญ่หลายแห่งประคับประคองธุรกิจให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายด้วยเงินช่วยเหลือจากผู้ชำระภาษีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาเก็บภาษีการทำธุรกรรมทางการเงิน (Tobin tax) เพื่อป้องกันการเก็งกำไร ในขณะที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวในทันที
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯได้ตีกรอบการประชุมด้วยการมุ่งหารือประเด็นการสกัดความเสี่ยง หลังจากที่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้หารือถึงวิธีการต่อสู้กับวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
ชาร์ลส์ ดูแมส ประธานบริษัทลอมบาร์ด สตรีท รีเสิร์ช ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์จะเผชิญกับแรงกดดันด้านรายได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่รัฐบาลเห็นพ้องด้านข้อเสนออื่นๆเพื่อกดดันให้ธนาคารประคองธุรกิจให้ได้ยามเผชิญกับปัญหาต่างๆ
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจดังกล่าวต้องเริ่มตระหนักถึงความจริงที่ว่า พวกเขาจะไม่สามารถกลับไปดำเนินธุรกิจได้อย่างปกติ และสิ่งที่ต้องทำคือ การค้ำประกันเงินฝากของลูกค้าชั้นดีและเพิ่มสัดส่วนฐานเงินทุนให้มากยิ่งขึ้น