บริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกพากันอพยพพนักงานและระงับการผลิตบางส่วนเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวสามารถผิลน้ำมันดิบได้กว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมในสหรัฐ
โดยบริษัท บีพี พีแอลซี ได้อพยพพนักงานในแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตและได้ปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันบางส่วนในอ่าวเม็กซิโก โดยบีพีออกแถลงการณ์ว่า "บริษัทจำเป็นต้องอพยพพนักงานและปิดแท่นขุดเจาะบางส่วนตามมาตรการเฝ้าระวัง"
ขณะที่บริษัท เชฟรอน คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐ ประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า บริษัทได้ปิดฐานการผลิตบางส่วนในอ่าวเม็กซิโก อีกทั้งยังอพยพพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตออกจากพื้นที่
ด้านบริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกระบุว่า บริษัทยังคงผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกตามปกติ และกำลังติดตามรายงานพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัท รอยัล ดัทช์ เชล แสดงความเชื่อมั่นว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกจะไม่ได้รับผลกระทบ
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้พายุเฮอร์ริเคนไอด้าเคลื่อนตัวด้วยความเร็วลมสูงสุด 105 ไมล์/ชั่วโมง จากเมื่อวานนี้ที่ 100 ไมล์/ชั่วโมง โดยขณะนี้พายุไอด้าอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันออกของคิวบาราว 140 ไมล์
ทั้งนี้ ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติคาดการณ์ว่า พายุไอด้าซึ่งเป็นพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงในระดับ 2 จะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวเม็กซิโกก่อนเวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐในวันที่ 10 พ.ย.โดยคาดว่าอิทธิพลของพายุลูกนี้จะสร้างความเสียหายในพื้นที่ตลอดแนวแกรนด์ ไอเซิล มลรัฐหลุยส์เซียน่า ไปจนถึงชายหาดเม็กซิโกในรัฐฟลอริด้า แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเมืองนิวออร์ลีนส์ นอกจากนี้ ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติยังยกเลิกการเตือนภัยพายุไอด้าที่คาบสมุทรยูคาตันในเม็กซิโก บลูมเบิร์กรายงาน