ญี่ปุ่นได้ซื้อพันธบัตรสหรัฐสูงกว่าจีนเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขึ้นแท่นเป็นผู้ซื้อพันธบัตรจากต่างประเทศรายใหญ่สุด และยังทำให้การถือครองพันธบัตรของญี่ปุ่นสูงถึง 7.31 แสนล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 10% ของตลาดโดยรวม โดยญี่ปุ่นได้ซื้อพันธบัตรสหรัฐไป 1.05 แสนล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท มิซูโฮ แอสเส็ท เมเนจเมนท์ และบริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ แอสเส็ท เมเนจเมนท์ เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรของสหรัฐ เนื่องจากบริษัทมีมุมมองที่คลายกันเกี่ยวกับปฏิกริยาของชาวอเมริกันที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการดำเนินการของรัฐบาลในช่วงทศวรษที่ 90
อากิระ ทาเคอิ หัวหน้าฝ่ายพันธบัตรของมิซูโฮ แอสเส็ท กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐต้องเผชิญกับสถานการณ์ย่ำแย่ 2 อย่าง คือ เศรษฐกิจถดถอยและภาวะสินเชื่อหดตัว และสหรัฐจะได้เผชิญกับภาวะผันผวนประการที่ 3 ซึ่งก็คือ ภาวะเงินฝืด ซึ่งภาวะดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนเข้าถือครองพันธบัตรมากขึ้น และยังได้คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะลดลงมาเหลือ 2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ และนักลงทุนที่ซื้อพันธบัตร 10 ล้านดอลลาร์ จะได้อัตราผลตอบแทนประมาณ 715,000 ดอลลาร์
มูลค่าหลักทรัพย์ประเภทต่างๆของรัฐบาลอ่อนตัวลงไป 2.8% ตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปี ร่วงลงมาเหลือ 2.04% ทั้งนี้ก็เพราะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงทำให้ความต้องการซื้อพันธบัตรลดลงตามไปด้วย