สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นถ้วนหน้า โดยสกุลเงินริงกิตมาเลเซียและรูเปียห์อินโดนีเซียพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำของสหรัฐและคำมั่นสัญญาของกลุ่ม G20 ที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยดึงดูนักลงทุนให้เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.27 น.ตามเวลากัวลาลัมเปอร์ สกุลเงินริงกิตพุ่งขึ้น 0.6% แตะที่ 3.3820 ริงกิต/ดอลลาร์ ขณะที่เงินวอนเกาหลีใต้ดีดขึ้น 0.5% แตะที่ 1,161.25 วอน/ดอลลาร์ และรูเปียห์อินโดนีเซียพุ่งขึ้น 0.5% แตะที่ 9,410 รูเปียห์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินบาทของไทยดีดขึ้นแตะ 33.34 บาท/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ดอลลาร์สิงคโปร์พุ่งขึ้น 0.2% แตะที่ 1.3887 ดอลลาร์สิงคโปร์/ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ไต้หวันดีดขึ้น 0.4% แตะที่ 32.368 ดอลลารไต้หวัน/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินหยวนของจีนทรงตัวอยู่ที่ 6.8271 หยวน/ดอลลาร์
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐกำลังทำให้เกิดกระแสการระดมทุนทั่วโลกในรูปของการทำ carry trade หรือการกู้ยืมเงินดอลลาร์มาซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ซึ่งธุรกรรมประเภทนี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินยูโรและบางสกุลเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่
เจอร์ราด แคทซ์ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในฮ่องกงกล่าวว่า อัตราว่างงานที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในสหรัฐและกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ กำลังจูงใจให้นักลงทุนเข้าทำ carry trade สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางมาเลเซียและอินโดนีเซียจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้และฟิลิปปินส์จะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาสแรกปีหน้า