สำนักงานพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า รัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน ในอัตรา 8% ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 เดือนที่รัฐบาลจีนประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงเนื่องจากต้นทุนนำเข้าน้ำมันดิบและดีมานด์เชื้อเพลิงภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
NDRC ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินอ็อคเทน 90 จะถูกปรับขึ้นในอัตราสูงสุดที่ 5.98 หยวน (88 เซนต์สหรัฐ)/ลิตร หรือประมาณ 22.6 หยวน/แกลลอน เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยในสหรัฐที่ 2.682 ดอลลาร์/แกลลอน ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลจะถูกปรับเพิ่มขึ้น 8% เป็น 6,360 หยวน/ตัน และราคาเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินจะถูกปรับเพิ่มอีก 7% นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 7% เป็น 7,100 หยวน/ตัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ทางการจีนกล่าวว่า การประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศจะยังคงสามารถทำกำไรได้ โดยรัฐบาลตัดสินใจขึ้นราคาเชื้อเพลิงหลังจากเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 1 ปี ซึ่งทำให้อัตราการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้จีนตัดสินใจขึ้นราคาเชื้อเพลิงในครั้งนี้ด้วย
นายจาง หลี่จุน หัวหน้านักวิเคราะห์จากสภาเพื่อการพัฒนาและวิจัยของจีนกล่าวว่า การที่รัฐบาลจีนตัดสินใจขึ้นราคาเชื้อเพลิงจะส่งผลให้ต้นทุนของภาคอุตสาหกรรม เกษตรกร และสายการบินเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคาเชื้อเพลิงจะช่วยหนุนตัวเลขกำไรของบริษัทพลังงาน และการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถรับมือกับราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นได้ โดยนายจางคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตรา 9.5% ต่อปีในไตรมาส 4 ปีนี้
นอกจากนี้ นายจางคาดว่า การประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงจะส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีนพุ่งขึ้นอีก 0.12% แต่จะไม่ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ควบคุมราคาเชื้อเพลิงเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อ โดยภายใต้ระบบการคำนวนราคาแบบใหม่นั้น รัฐบาลจะปรับราคาน้ำมันดิบทุกครั้งที่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 4% ภายในระยะเวลา 22 วันทำการ บลูมเบิร์กรายงาน