นักวิเคราะห์คาดยอดส่งออกจีนเดือนต.ค.ส่อเค้าร่วง 13% จากปีก่อน จุดกระแสกดดันขึ้นค่าเงินหยวน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 10, 2009 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดส่งออกของจีนในเดือนต.ค.มีแนวโน้มร่วงลงในอัตราต่ำสุดในปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจุดกระแสเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าเงินหยวนมากขึ้น

นักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนต.ค.จะร่วงลง 13% จากยอดส่งออกปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าอาจไต่ระดับขึ้นไปแตะที่ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน

ทั้งนี้ จีนจะเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนต.ค.หลายรายการในวันพรุ่งนี้

จากบรรยากาศทางการค้าที่ฟื้นตัว บรรดาผู้นำต่างประเทศอาจเพิ่มแรงกดดันให้จีนปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่จีนได้ควบคุมการอ่อนค่าของเงินหยวน เพื่อกระตุ้นธุรกิจส่งออกมานานถึง 15 เดือน ด้านนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรปกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ค่าเงินหยวนของจีนที่แข็งค่าขึ้นจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่าเงินหยวนมีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐมีกำหนดเดินทางเยือนจีนตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.นี้ ท่ามกลางความตึงเครียดเรื่องข้อพิพาทด้านการจัดเก็บภาษียางรถยนต์ของจีนในเดือนก.ย. ขณะที่กระทรวงคลังสหรัฐวิจารณ์ว่า เงินหยวนของจีนขาดความยืดหยุ่น

บลูมเบิร์กรายงานว่าจีนยังคงควบคุมมูลค่าสกุลเงินหยวนให้เคลื่อนไหวที่ระดับ 6.83 ต่อดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551 หลังจากที่ปล่อยให้สกุลเงินดังกล่าวแข็งค่าขึ้น 21% ในช่วง 3 ปีก่อนหน้านั้น ขณะที่กลุ่มเทรดเดอร์คาดว่าเงินหยวนจะเริ่มแข็งค่าขึ้นและจะไต่ระดับเพิ่ม 3.3% ในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกบางรายมีความกังวลว่า รัฐบาลอาจปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าเร็วขึ้น หลังจากที่ดัชนีภาคการผลิตและการจัดแสดงสินค้าครั้งใหญ่สุดของจีนสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์ด้านการส่งออกฟื้นตัว



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ