World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552

ข่าวต่างประเทศ Monday November 9, 2009 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นในเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.17 พันล้านดอลลาร์จากเดือนก.ย. แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,056.77 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาทองคำพุ่งขึ้นและสกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้น

-- รัฐบาลจากกลุ่มประเทศจี-20 ส่งสัญญาณเตือนว่า ภาคธุรกิจธนาคารจะเผชิญแรงกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายในการปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือภาคธุรกิจต่างๆในอนาคต โดยที่ประชุมได้หารือถึงการเก็บภาษีด้านการทำธุรกรรมการเงินเพิ่มมากขึ้น

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ด้วยคะแนนเสียง 220 เสียง ต่อ 215 เสียงเมื่อคืนนี้ ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวจะใช้งบประมาณกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลากว่า 10 ปีข้างหน้า โดยกฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้ชาวอเมริกันมีการประกันสุขภาพ และจะทำให้การทำประกันสุขภาพมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง

-- บริษัทน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกพากันอพยพพนักงานและระงับการผลิตบางส่วนเนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน "ไอด้า" ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวสามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตโดยรวมในสหรัฐ

-- ญี่ปุ่นได้ซื้อพันธบัตรสหรัฐสูงกว่าจีนเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขึ้นแท่นเป็นผู้ซื้อพันธบัตรจากต่างประเทศรายใหญ่สุด และยังทำให้การถือครองพันธบัตรของญี่ปุ่นสูงถึง 7.31 แสนล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 10% ของตลาดโดยรวม โดยญี่ปุ่นได้ซื้อพันธบัตรสหรัฐไป 1.05 แสนล้านดอลลาร์

-- เหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริคเตอร์ที่อินโดนีเซียวันนี้ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีก 45 ราย อีกทั้งส่งผลให้อาคารที่อยู่อาศัยและอาคาพาณิชย์หลายแห่งในภาคตะวันออกของอินโดนีเซียทรุดตัวลงมา

-- พายุไต้ฝุ่นมิริแนคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 123 ราย สูญหาย 1 ราย และบาดเจ็บอีก 145 รายในเวียดนาม นอกจากนั้นยังสร้างความเสียหายกว่า 5 ล้านล้านดอง (280 ล้านดอลลาร์)

-- ออสเตรเลียเผยยอดอนุมัติสินเชื่อเพื่อบ้านพุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนกันยายน ส่งผลให้ธนาคารกลางออสเตรเลียมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 สำหรับปีนี้

-- อลิอันซ์ เอสอี บริษัทประกันรายใหญ่สุดของยุโรป ทำกำไรได้มากขึ้นกว่าสองเท่าหลังรายได้จากการลงทุนเริ่มฟื้นตัวจากปีที่แล้ว โดยกำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 1.32 พันล้านยูโร (1.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาส 3 จากระดับ 545 ล้านยูโรเมื่อปีที่แล้ว เมื่อไม่นับรวมยอดขายของเดรสด์เนอร์ แบงก์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่นักวิเคราะห์จากการสำรวจของบลูมเบิร์กคาดว่าจะอยู่ที่ 1.25 พันล้านยูโร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ