ธนาคารกลางจีนเผยยอดการปล่อยกู้ล็อตใหม่เดือนต.ค.ร่วงลง 51%

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 11, 2009 10:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางจีนเผยยอดการปล่อยเงินกู้สกุลเงินหยวนล็อตใหม่ในเดือนต.ค.อ่อนตัวลง 51% แตะ 2.53 แสนล้านหยวน หรือ 3.70 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่ชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับยอดการปล่อยกู้เดือนก.ย.ที่ 5.16 แสนล้านหยวน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของจีนได้พิจารณาที่จะใช้มาตรการควบคุมมาตรฐานด้านสินเชื่อ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ของจีนขยายตัวเป็นประวัติการณ์ถึง 29.4% จากระดับปีที่แล้ว

การปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัวลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางโลกได้ออกมาเตือนว่า จีนกำลังเผชิญกับอันตรายจากราคาสินทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นและอาจจะทำลายเสถียรภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลจีนอาจจะออกมาตรการในการจำกัดการใช้ตราสารหนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ออกมาในเร็วๆนี้ เพื่อควบคุมราคาสินทรัพย์ไม่ให้ปรับตัวขึ้นมากไปกว่านี้

ลู ถิง นักเศรษฐศาสตร์ของแบงค์ออฟอเมริกา-เมอร์ริลลินช์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ จีนจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์แวดล้อมทางการเงินอย่างเข้มขึ้นในปีหน้า และคาดว่าจีนจะนำนโยบายที่เข้มงวดกว่าเดิมมาใช้ไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2553 ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น

คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการธนาคารจีนระบุว่า ผู้ที่ต้องการเงินกู้ส่วนบุคคลสูงกว่า 3 แสนหยวนให้กับคู่ค้าของผู้กู้ จะถูกจำกัดการลงทุนที่ต้องการเก็งกำไร

ทั้งนี้ ยอดการปล่อยกู้ครั้งใหม่นั้นต่ำกว่าระดับการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้จัดทำขึ้นและคาดว่าจะอยู่ที่ 3.70 แสนล้านหยวน ในเดือนต.ค.เมื่อปีที่แล้วนั้น ยอดการปล่อยกู้อยู่ที่ 1.81 แสนล้านหยวน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 จะอยู่ที่ 29.5%

ในปีนี้นั้น ยอดการปล่อยกู้ครั้งใหม่มีจำนวนทั้งสิ้น 8.92 ล้านล้านหยวน โดยเฉพาะยอดการปล่อยกู้ที่ทะยานขึ้นในระบบการธนาคารที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ซึ่งช่วยหนุนเศรษฐกิจของจีนหลุดพ้นจากวิกฤตการเงินโลก

โรเบิร์ต ฮอร์มัตส์ รัฐมนตรีช่วยฝ่ายกิจการเศรษฐกิจของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวปราศรัยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า การขยายตัวของสินเชื่อ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวนของรัฐบาลเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดในการพยุงเศรษฐกิจโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ