สกุลเงินในเอเชียพุ่งขึ้นถ้วนหน้า หลังญี่ปุ่น-จีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของ IntercontinentalExchange Inc ว่า ณ เวลา 12.15 น.ตามเวลาโตเกียว ดัชนีDollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 74.897 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 จากระดับ 75.021 จุดเมื่อวานนี้

ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะที่ 89.60 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.81 เยน/ดอลลาร์ ค่าเงินเปโซฟิลิปปินส์ดีดขึ้น 0.3% แตะที่ 46.752 เปโซ/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นมา และค่าเงินริงกิตพุ่งขึ้น 0.1% แตะที่ 3.3825 ริงกิต/ดอลลาร์

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรขั้นพื้นฐานประจำเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 10.5% แตะที่ 7.38 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับติดขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 3.1%

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 16.1% จากปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 16.2% ต่อปี

โซอิชิโร่ มอนจิ หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท ไดวา เอสบี อินเวสท์เมนท์ กล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียฟื้นตัวได้เร็วกกว่าภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก จึงทำให้อุตสาหกรรมส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าการขยายตัวของเอเชียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า