นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เรียกร้องให้จีนปรับค่าเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จีนต้องเปิดทางให้เงินหยวนยืดหยุ่นมากกว่านี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายทางการเงินจากยุโรปและญี่ปุ่น ต่างเรียกร้องให้จีนปล่อยลอยตัวค่าเงินหยวนในการประชุมจี-20 ที่สก็อตแลนด์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
บลูมเบิร์กรายงานอ้างถ้อยแถลงของประธาน ADB ที่มีขึ้นหลังจากที่วันนี้ ทางการจีนได้เปิดเผยข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งว่า รัฐบาลอาจเผชิญแรงกดดันจากต่างชาติให้ปรับขึ้นค่าเงินหยวน นับตั้งแต่ที่จีนควบคุมให้เงินหยวนอ่อนค่าลงเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ประธานเอดีบีกล่าวให้สัมภาษณ์ในระหว่างที่พำนักในประเทศสิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือ (เอเปค) ซึ่งเขากล่าวว่า เงินดอลลาร์สหรัฐจะยังเป็นสกุลเงินที่ทั่วโลกใช้เป็นทุนสำรอง เพราะเป็นสกุลเงินที่เทรดเดอร์และนักลงทุนมักใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขาย ดังนั้น สถานะของเงินดอลลาร์น่าจะยังแข็งแกร่งต่อไป แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า เงินยูโร เงินเยน และเงินหยวนจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 5.6% เมื่อเทียบกับเงินยูโร และร่วงลง 6.7% เมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ได้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์จะสูญเสียสถานะการเป็นสกุลเงินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ คุโรดะกล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียจะฟื้นตัวได้ในลักษณะของกราฟที่เคลื่อนไหวเป็นรูปตัว V เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก แม้ว่าขณะนี้เราเพิ่งจะอยู่ในจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวก็ตาม และเชื่อว่าหลายประเทศในเอเชียจะยังไม่ยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับทางรัฐมนตรีคลังและเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางจากสหรัฐ ญี่ปุ่น ยุโรปและกลุ่มประเทศจี-20 ที่กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะเลิกใช้นโยบายกระตุ้นภาคการเงิน