จีนเผยยอดเกินดุลการค้าเดือนต.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในปีนี้ หนุนจีนขึ้นค่าเงินหยวน

ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนต.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดปีนี้ หลังยอดส่งออกร่วงลงในอัตราที่ชะลอตัว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะช่วยเปิดทางให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินปรับขึ้นค่าเงินหยวน

สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.399 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขยายตัวเกือบ 2 เท่าเมื่อเทียบกับระดับในเดือนก.ย.ที่ 1.293 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดส่งออกปรับตัวลดลง 13.8% ซึ่งน้อยกว่าในเดือนก.ย.ที่ดิ่งลง 15.2%

การเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าในวันนี้มีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐจะเข้าพบกับผู้นำจีนในระหว่างการเดินสายเยือนเอเชีย ซึ่งเขาอาจกล่าวถึงประเด็นที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวถึงมูลค่าของเงินหยวนที่อ่อนค่ากว่าความเป็นจริง ขณะที่จีนปฏิเสธข้อเรียกร้องจากประเทศต่างๆที่ต้องการให้จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน

อลิสแตร์ ฉาน นักวิเคราะห์จาก Moody’s Economy.com กล่าวว่า "ผู้ส่งออกทั่วโลกกำลังกดดันให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเร่งผลักดันให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น ขณะที่รัฐบาลอาจต้องรอให้ยอดส่งออกขยายตัวได้เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี ก่อนที่จะปรับดำเนินการเพิ่มค่าเงินดังกล่าว"

บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12:15 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ เงินหยวนเทรดที่ระดับ 6.8266 ดอลลาร์/หยวน จากระดับ 6.8268 ดอลลาร์/หยวน