สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการโรดโชว์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายโอกาสด้านการค้าและการลงทุนในลาตินอเมริกา (บราซิล อาร์เจนติน่า ชิลี) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักผู้แทนการค้าไทย ระหว่างวันที่ 27 ต.ค.-7 พ.ย.ที่ผ่านมา ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันอย่างน้อย 2 เท่าภายใน 5 ปี
"ได้มีการหารือระหว่างสำนักผู้แทนการค้าไทย กระทรวงการต่างประเทศ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เห็นควรให้มีการตั้งเป้าการค้าระหว่างไทยและภูมิภาคลาตินอเมริกาเฉพาะ บราซิล อาร์เจนติน่า ชิลี เพิ่มขึ้นจาก 160,000 ล้านบาท อย่างน้อย 2 เท่าภายใน 5 ปีนี้ เป็น 320,000 ล้านบาท(15% ต่อปี)"นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ผู้แทนการค้าไทย ในฐานะหัวหน้าคณะ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับภาคชิ้นส่วนยานยนต์ โดยฝ่ายบราซิลแสดงความสนใจจะร่วมลงทุนกับฝ่ายไทย ในการผลิตรายชิ้นส่วนรถยนต์สำหรับรถยนต์รุ่นที่ไทยเลิกผลิตไปแล้วแต่ยังได้รับความนิยมที่บราซิลอยู่ไปผลิตที่บราซิลแทน ซึ่งการผลิตนี้สามารถนำเข้าไปขายในประเทศไทยที่ยังคงมีความต้องการใช้อะไหล่รถยนต์รุ่นที่เลิกผลิตไปแล้วอยู่เช่นกัน
ในขณะที่ฝ่ายชิลีแสดงความประสงค์จะสั่งซื้อยางรถแทรกเตอร์จากไทย รวมถึงเหล็กหล่อสำหรับรถแทรกเตอร์ โดยได้แจ้งฝ่ายไทยรับทราบข้อมูล spec ที่ต้องการ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าน่าจะได้ยอดขายประมาณ 50-100 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 53
นอกจากนี้ ผู้แทนเอกชนแจ้งว่าทั้ง 3 ประเทศขอเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ทุกตัวที่ผลิตในไทย เนื่องจากมีการออกแบบและการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ในการนี้ได้คาดการณ์ยอดขายของปี 53 ใน 3 ประเทศรวมกันว่าการส่งออกส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานพาหนะ น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือ ไม่น้อยกว่า 17,487 ล้านบาท
นายวัชระ กล่าวว่า สำหรับสาขาอาหารกระป๋องได้รับยอดสั่งซื้อมากขึ้น โดยคาดว่าไตรมาส 1/53 จะมียอดสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท หากมีข้อตกลงเสรีทางการค้าระหว่างไทยและชิลีจะส่งผลให้มียอดขายไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี จากเดิมที่มียอดขายปีละ 1,500 ล้านบาท
สาขาอาหารทะเลและประมง คาดว่าจะมีการนำเข้าปลาหิมะ(Chilean Sea Bass) และปลาแซลมอนในปี 53 ประมาณ 1,000 ตัน และ คาดการณ์ว่าปริมาณการนำเข้าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ต่อปี (2 เท่าภายใน 5 ปี)
สาขาอาหารแปรรูป/อาหารสัตว์และยารักษาสัตว์ ผู้แทนภาคเอกชนไทยได้พบผู้ผลิต ผู้ส่งออกและผู้ขายวัตถุดิบที่ใช้ผลิตอาหารสัตว์และเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ที่บราซิล และคาดว่าจะเกิดการซื้อขายประมาณ 103 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,450 ล้านบาทช่วงต้นปี 53 นอกจากนี้ยังได้รู้จักผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับสัตว์ที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิตโดยในขั้นต้นจะนำผลิตภัณฑ์นี้ไปทำการศึกษาก่อน
สาขาอัญมณีและเครื่องประดับ TGTA คาดว่ายอดขายปี 53 ระหว่างไทยกับบราซิล อาร์เจนติน่า และชิลีว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท 2,000 ล้านบาทและ 1,000 ล้านบาทตามลำดับ, สาขาเครื่องจักรกล อะไหล่อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ก่อสร้าง จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาคมหล่อโลหะของไทยและบราซิล โดยจะมีการเชิญมาจัดประชุมเรื่องการหล่อโลหะร่วมกันที่ประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าในปี 2553 จะมีการค้าขายกับทางประเทศกลุ่มลาตินอเมริกาประมาณ 1,000 ล้านบาท
สาขาโลจิสติกส์ ตัวแทนโลจิสติกส์ ไทยได้มีการหารือและเห็นชอบในหลักการกับบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ของชิลีในการที่จะเป็นตัวแทนด้านโลจิสติกส์ในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งในขั้นต้นนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนระหว่างกัน การตกลงครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนการค้าระหว่างไทยและภูมิภาคลาตินอเมริกาได้ถึง 70 % ภายใน 2 ปีร่วมถึงเปิดโอกาสให้นักธุรกิจลาตินอเมริกามาใช้บริการสำนักงานในไทยมากขึ้นเพื่อให้เกิดการซื้อขายโดยตรงระหว่างกันไม่ต้องผ่านบริษัทการค้า (trading firm)