ธนาคารกลางเกาหลีใต้ บราซิล รัสเซีย และธนาคารกลางอื่นๆในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา พร้อมใจกันใช้ยุทธศาสตร์สกัดกั้นการพุ่งขึ้นของสกุลเงินในประเทศซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังส่งผลให้ดีมานด์สินทรัพย์ในประเทศสูงขึ้นจนธนาคารกลางเหล่านี้แทบไม่อาจรับมือได้
นายชิน เจ ยุน รมช.คลังเกาหลีใต้กล่าวว่า รัฐบาลจะปล่อยให้สกุลเงินวอนเคลื่อนตัวตามกลไกลตลาด หลังจากการเพิ่มเม็ดเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศอีกราว 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ส่งผลให้การแข็งค่าของเงินวอนลดน้อยลง ขณะที่นายอังเดรส์ เวลาสโค รมว.คลังของชิลีกล่าวว่า สภาคองเกรสของชิลีได้อนุมัติการเพิ่มยอดขายพันธบัตรภายในประเทศเพิ่มเม็ดเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่มีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้ค่าเงินเปโซของชิลีอ่อนตัวลง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียได้เพิ่มเงินในทุนสำรองต่างประเทศอีก 15% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมา พร้อมกับแทรกแซงตลาดด้วยการเทขายสกุลเงินเรียล อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบที่พุงขึ้นทำให้ธนาคารกลางรัสเซียประสบความยากลำบากในการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเรียล
ข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุว่า รัฐบาลในหลายประเทศเพิ่มเม็ดเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับสั่งการธนาคารกลางเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อสกัดกั้นการอ่อนค่าของดอลลาร์และยังยั้งสกุลเงินในประเทศไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไปซึ่งจะทำให้สินค้าส่งออกของประเทศตนเองมีราคาแพงกว่าประเทศคู่แข่ง
ค่าเงินวอนเกาหลีใต้พุ่งขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547 โดยเมื่อวานนี้เงินวอนปิดที่ 1,157.50 วอน/ดอลลาร์ พุ่งขึ้น 8.5% ขณะที่ค่าเงินเรียลของบราซิลพุ่งขึ้นไปแล้ว 1.78% ในเดือนนี้ ส่วนค่าเงินเปโซของชิลีทะยานขึ้น 26% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับ 2 ในบรรดาสกุลเงินของภูมิภาคละตินอเมริกา