ผู้นำกลุ่มประเทศเอเปคเน้นกำหนดนโยบายสร้างสมดุลด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Friday November 13, 2009 13:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ชี้กลุ่มประเทศสมาชิกต้องกำหนดยุทธศาสตร์และกรอบเวลาการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคำนึงถึงความสมดุลระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและป้องกันภาวะฟองสบู่ควบคู่กันไป

ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวต่อบรรดาผู้นำภาคธุรกิจที่เข้าร่วมประชุมเอเปคว่า การยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช้าเกินไปอาจทำให้มูลค่าของราคาสินค้าในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายไม่ควรยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าจะแน่ใจได้ว่า เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างแท้จริง

เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเริ่มผ่อนคลายบางมาตรการที่ได้ใช้ไปเพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกหลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยและกระตุ้นการใช้จ่ายไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทางที่ประชุมกลุ่มประเทศจี-20 ได้ร่างกรอบเวลาการปรับสมดุลทางเศรษฐกิจพร้อมกำหนดแนวทางการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่มเอเปคที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขณะที่เกาหลีใต้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการขึ้นดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ รัฐบาลหลายประเทศยังไม่เร่งยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่ขยายโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือด้านการจ้างงานให้กับนายจ้างซึ่งครบกำหนดหมดอายุในปีนี้เพื่อเลี่ยงมิให้ตัวเลขว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอันจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ ขณะสหรัฐขยายเวลาการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรกและการออกนโยบายช่วยเหลือด้านสวัสดิการของผู้ตกงาน

ด้านนายโรเบิร์ต โซเอลลิค ประธานธนาคารโลกกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลควรดำเนินงานตามแผนกระตุ้นภาคการเงินตามเดิม แต่ไม่จำเป็นต้องกำหนดมาตรการใหม่ๆมาเพิ่มเติม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ