World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday November 16, 2009 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) หลังจากที่รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของวอลท์ ดิสนีย์และบริษัทค้าปลีก ได้ช่วยเพิ่มความหวังให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงก็ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเช่นกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 73.00 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 10,270.47 จุด ดัชนี S&P 500 ไต่ขึ้น 6.24 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1, 093.48 จุด และดัชนี Nasdaq บวก 18.86 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 2,167.88 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กยังคงร่วงต่อเนื่องลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับดีมานด์น้ำมันและสต็อกน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มสูงทำสถิติ

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 76.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาได้ร่วงลงแตะระดับ 75.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดดีดตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) หลังจากที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วันทำการเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนได้แห่เข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.บวกขึ้น 10.10 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,116.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,101.20 - 1,117.40 ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มแบงก์และสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่บริติช แอร์เวย์ ก็ขยับขึ้นเช่นกัน หลังจากที่สายการบินสามารถตกลงเรื่องการควบกิจการกับสายการบินไอบีเรียของสเปนได้

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 19.88 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 5,296.38 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 14 เดือน

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาสสาม ประกอบกับการเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่พุ่งสูงเกินคาดในเดือนก.ย. กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ สกุลเงินต่างประเทศ

เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ 1.4916 ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่ 1.6688 ดอลลาร์ จากระดับ 1.6586 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.83% เมื่อเทียบกับเยนที่ 89.630 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 90.380 เยน และร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์สวิสที่ 1.0118 ฟรังก์ จากระดับ 1.0176 ฟรังก์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ