แอร์บัสและโบอิ้ง คาดการณ์ว่า ธุรกิจสายการบินจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ในปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบหลายสิปปี ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางด้วยเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น
จอห์น เลฮีย์ ซีอีโอของแอร์บัส กล่าวว่า สายการบินต่างๆได้ยุติแผนการเลื่อนการรับมอบเครื่องบินแล้ว ขณะที่โบอิ้งได้ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าจะช่วยสายการบินปรับปรุงงบดุลของตนเองได้
แรนดีย์ ทินเซท หัวหน้าฝ่ายการตลาดของโบอิ้ง กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีของการฟื้นตัว และปี 2554 สายการบินต่างๆจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง โดยงานแสดงโชว์เครื่องบินเมื่อปี 2550 นั้นเป็นปีของคำสั่งซื้อ และปีนี้เป็นปีที่เป็นการทำงานกับลูกค้าของเรารุดหน้ามากขึ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า งานโชว์ที่ดูไบนั้นสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับงานแสดงหลายปีก่อนหน้านี้ ในวันนี้ แอร์บัสได้ทำสัญญากับสายการบินเอธิโอเปียมูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทได้ประกาศยอดสั่งซื้อได้แล้วในวันแรกของการแสดงโชวครั้งล่าสุดในรอบ 2 ปี
สมาคมขนส่งทางอากาศสากล คาดการณ์ว่า ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารทางเครื่องบินในเดือนก.ย.ปีนี้จะอ่อนตัวลง 5.3% และคาดว่า สายการบินทั่วโลกจะขาดทุนรวมกันประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมา สายการบินต่างๆ เช่น บริติช แอร์เวย์ส ดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า อเมริกัน แอร์ไลน์ส และเดลต้า แอร์ไลน์ส ในสหรัฐ ต่างเลื่อนการรับมอบเครื่องบินออกไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆรวมทั้งค่าธรรมเนียมในการจอดเครื่องบิน
ทั้งนี้ แอร์บัสและโบอิ้งยังคงบริหารงานเพื่อให้สามารถรักษาระดับหรือเพิ่มระดับการส่งมอบเครื่องบินในปีนี้ โบอิ้งคาดว่า จะส่งมอบเครื่องบินได้ถึง 480-485 ลำในปีนี้ หลังจากที่ปีที่แล้วได้ส่งมอบเครื่องบินไปกว่า 375 ลำ ขณะที่แอร์บัสก็ได้ส่งมอบเครื่องบินในปีที่แล้วไป 483 ลำ
การผลิตเครื่องบินของ 2 บริษัทนั้นยังคงอยู่ในระดับที่ทรงตัวในปีนี้ ทำให้ลูกค้าเร่งการส่งมอบขึ้นมา เนื่องจากยอดสั่งซื้อนั้นไม่ได้ขยายตัวขึ้นมากเหมือนก่อนหน้านี้