BOI เผยการลงทุนช่วงปลายปี 52 เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ช่วง 10 เดือนลดลง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 16, 2009 16:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยถึงภาวะการลงทุนในช่วง 10 เดือน(ม.ค.-ต.ค.52)ว่า มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 929 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุน 333,400 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการจ้างงาน 116,756 คน

"แม้ว่าภาวะการลงทุนโดยรวมของช่วง 10 เดือนจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งจำนวนโครงการซึ่งลดลง 10% และมูลค่าเงินลงทุนลดลง 9% แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะช่วงหลังๆ เริ่มมีสัญญาณที่ดีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมเพิ่มขึ้น และการขยายตัวของโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท" เลขาธิการบีโอไอ กล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมการลงทุนในช่วงปลายปี 52 เริ่มมีสถานการณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเดือน ก.ย.-ต.ค.52 มีโครงการที่ยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงสุดในรอบ 10 เดือน เดือนก ก.ย.มีจำนวน 132 โครงการ และเดือน ต.ค.130 โครงการ จากที่ช่วงก่อนหน้ามีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนประมาณ 60-120 โครงการต่อเดือนเท่านั้น

โครงการลงทุนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกิจการขนาดเล็กและขนาดกลาง(เอสเอ็มอี)อยู่ในกลุ่มกิจการผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ กิจการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ กิจการผลิตพลังงานไฟฟ้า

ส่วนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 500 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน มากถึง 17 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 32,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการฟื้นตัวและคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลก

ขณะที่ กิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ที่มีผู้สนใจยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 42 โครงการ ลงทุนรวมกว่า 3,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 52 ที่มีผู้ยื่นขอรับการส่งเสริมเพียง 3 โครงการ ลงทุนรวม 500 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนสร้างคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์

นางอรรชกา กล่าวว่า ภาวะการลงทุนช่วง 10 เดือนแรก ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่าการลงทุนรวม 180,600 ล้านบาท รองลงมาเป็น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 47,400 ล้านบาท ตามด้วยอุตสาหกรรมโลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 39,700 ล้านบาท

สำหรับการลงทุนตรงจากต่างประเทศ(FDI)ช่วง 10 เดือน มีมูลค่าทั้งสิ้น 157,401 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นยังเป็นกลุ่มที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุด ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุนมีมูลค่า 52,307 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 33% ของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด รองลงมาคือ การลงทุนจากประเทศสหรัฐ มีมูลค่าการลงทุนรวม 25,546 ล้านบาท กลุ่มประเทศอาเซียน มีมูลค่ารวม 12,325 ล้านบาท และกลุ่มประเทศในยุโรป มีมูลค่ารวม 18,457 ล้านบาทตามลำดับ

การลงทุนจากประเทศในภูมิภาคเอเชียได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก เช่น จีน เข้ามาลงทุนในไทยถึง 10,174 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10 เท่าตัว เกาหลีใต้ มีมูลค่าการลงทุน 6,013 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39% ในขณะที่อินเดีย มีมูลค่าการลงทุน 4,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5 เท่าตัว

“ส่วนหนึ่งที่ทำให้การลงทุนจากประเทศต่างๆ ดังกล่าวเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะการจัดกิจกรรมร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เช่น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีนที่มีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเดินทางไปชักจูงการลงทุนที่ประเทศอินเดียอย่างต่อเนื่อง และการเปิดสำนักงานบีโอไอที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้"นางอรรชกา กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ