นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนมีมติเห็นชอบให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวน 3 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 44,510.25 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่ได้รับส่งเสริม 3 โครงการวันนี้ ประกอบด้วย 1.บริษัท ชาร์พ แอพพลายแอนซ์( ประเทศไทย )จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุนผลิตเครื่องปรับอากาศ ปีละประมาณ 850,000 เครื่อง ตู้เย็นปีละประมาณ 750,000 เครื่อง และเครื่องปรับคุณภาพอากาศ ปีละประมาณ 1,000,000 เครื่อง มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,600 ล้านบาท โดยสินค้าที่ผลิตได้กว่า 80% จะส่งไปยังตลาดทั่วโลก และเหตุผลที่บริษัทแม่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเนื่องจากมีความพร้อมกว่าฐานการผลิตของบริษัท ฯ ในประเทศอื่น
2.บริษัท เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น ซัพพลาย จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 40,750 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 1,600 MW(เมกกะวัตต์) โครงการนี้เป็นการผลิตไฟฟ้า IPP แบบพลังงานความร้อนร่วม เพื่อจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)โดยทำสัญญาซื้อขายแล้วเมื่อเดือน ก.ค.51 และจะจ่ายไฟให้ กฟผ.ภายในปี 57
ทั้งนี้ โครงการนี้ได้รับความเห็นชอบในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจาก สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)เมื่อ 20 ส.ค.52 และได้รับความเห็นชอบให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจาก อบต.หนองกบ จังหวัดสระบุรี เมื่อ 15 ก.พ.51
3.บริษัท เมอร์เมด ออฟชอร์ เซอร์วิสเซส จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุน การให้บริการ ทดสอบและสำรวจด้านโครงสร้างของแท่นขุดเจาะและตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,160.25 ล้านบาท โดยจะให้บริการปีละประมาณ 20 งาน คาดว่าจะช่วยสนับสนุนและพัฒนาเศรษฐกิจในด้านพลังงาน และก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรมซ่อมบำรุงเรือและอู่เรือ