BOI ปกป้องเกษตรกรไทย ลดหุ้นต่างชาติในกิจการเพาะขยาย-ปรับปรุงพันธุ์พืช

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 16, 2009 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการปรับปรุงบัญชีประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริม หมวด 1 เกษตรกรรมและผลิตผลจากการเกษตร ในเรื่องประเภท, ขนาด, เงื่อนไข และสิทธิประโยชน์ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เนื่องจากเป็นกิจการที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน

ทั้งนี้ จะมีการลดสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติในกิจการเพาะขยายพันธุ์พืชและปรับปรุงพันธุ์พืชท้องถิ่นของไทย เช่น ข้าว, กล้วยไม้, สมุนไพร และผลไม้ จะต้องมีนักลงทุนสัญชาติไทยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 51% ของทุนจดทะเบียน จากเดิมที่ให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ 100% เพราะกิจการดังกล่าวเป็นกิจการในบัญชี 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ของกระทรวงพาณิชย์

สำหรับกิจการปลูกป่าและการเลี้ยงสัตว์(รวมถึงการเลี้ยงสัตว์น้ำ) ที่เป็นข้อกังวลของภาคประชาชนนั้นเป็นกิจการในบัญชี 1 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่ห้ามต่างชาติเข้ามาลงทุนอยู่แล้ว และบีโอไอได้กำหนดเงื่อนไขให้ต้องมีผู้มีสัญชาติไทยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่า 51% ของทุนจดทะเบียนอยู่แล้ว ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 1/2543

การเปิดเสรีการลงทุน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศสามารถออกประกาศเพิ่มเติมภายใต้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว เพื่อใช้เป็นเครื่องมือคุ้มครองกิจการนั้นๆ โดยไม่ต้องรอการแก้ไขหรือ ออกฎหมายใหม่ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน ซึ่งไม่ขัดต่อข้อตกลงของสนธิสัญญาดังกล่าว เช่น กรมวิชาการเกษตร ออกประกาศ ระบุพันธุ์พืช ที่ไม่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน หรือกรมประมงอาจออกประกาศ ควบคุมประเภทของสัตว์น้ำที่จะทำการเพาะเลี้ยง

ดังนั้น บีโอไอจึงเป็นหน่วยงานแรกที่นำร่องในการออกประกาศเพื่อปกป้องคุ้มครองกิจการที่อาจได้รับผลกระทบจากการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็อยู่ในระหว่างการพิจารณาออกประกาศเพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทยเช่นกัน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ