นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยผลสำรวจโครงการศึกษาและวิเคราะห์ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทยประจำปี 52 พบว่าไม่มีนักลงทุนรายใดมีแผนที่จะถอนการลงทุนออกจากประเทศไทยเลย โดยนักลงทุน 60% ระบุว่ายังคงรักษาระดับการลงทุนในประเทศไทยเท่ากับปัจจุบัน ส่วนนักลงทุน 25% มีแผนจะขยายกิจการเล็กน้อย และนักลงทุนอีก 5% มีแผนที่จะขยายการลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก
เหตุผลหลักๆ ในการตัดสินใจขยายการลงทุนในประเทศไทยต่อไป คือ อัตราค่าจ้างแรงงานที่เหมาะสม, สิทธิประโยชน์และมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ รวมทั้งความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในไทย แรงงานที่มีฝีมือ ตลอดจนความพร้อมของอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น วัตถุดิบและชิ้นส่วนที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ในการสำรวจดังกล่าวยังพบว่า นักลงทุนเพียง 8% มีแผนลดขนาดการลงทุนในประเทศไทยเล็กน้อย และมีนักลงทุนแค่ 3% อาจจะลดขนาดการลงทุนในไทยลงอย่างมาก โดยมีสาเหตุจากปัจจัยภายเป็นหลัก คือ สภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย รองลงมาเป็นเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองของไทย ตามด้วยกระบวนการทำงานของภาครัฐที่ไม่มีความโปร่งใส และเศรษฐกิจไทยไม่มีเสถียรภาพ
ผลสำรวจในครั้งนี้พบว่า นักลงทุนต่างชาติต้องการให้บีโอไอปรับปรุงการบริการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ โดยอันดับแรกคือ การประสานงานกับหน่วยราชการอื่นๆ เช่นกรมศุลกากร กรมสรรพากร รองลงมาเป็นเรื่องการให้บริการภายหลังได้รับการส่งเสริม และการปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับผลสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจัดทำขึ้นระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย.52 และมีบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน และบริษัทที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 576 ราย