พาณิชย์คาดปี 53 ส่อวิกฤติอาหารซ้ำรอยปี 51 ลุ้นโอกาสทองข้าวไทยราคาพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 16, 2009 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มอว่า ปี 53 มีโอกาสเกิดวิกฤตการณ์ทางด้านสินค้าอาหาร แต่สถานการณ์อาจไม่รุนแรงเหมือนในปี 51 โดยเฉพาะสินค้าข้าว ซึ่งขณะนี้มีความเป็นไปได้ที่ราคาข้าวในตลาดโลก รวมถึงข้าวไทยจะสูงขึ้น เนื่องจากการที่ผลิตข้าวโลกหายไปประมาณ 20% หรือคิดเป็น 15-16 ล้านตัน

เนื่องจากหลายประเทศผลผลิตเสียหายจากปัญหาภัยธรรมชาติและห้ามการส่งออกข้าว เช่น อินเดีย, เวียดนาม, ออสเตรเลีย ส่วนอียิปต์มีปัญหาขาดแคลนน้ำจึงลดพื้นที่เพาะปลูก ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าข้าวมีความจำเป็นจะต้องเพิ่มสต็อกในประเทศ จากปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย

ดังนั้น จึงคาดว่าปีหน้าไทยน่าจะสามารถส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 9-10 ล้านตัน จากปีนี้ที่คาดว่าจะส่งออกได้ใกล้เคียง 9 ล้านตันจากเป้าหมายที่ 8.5 ล้านตัน

นายวิจักร กล่าวว่า ทางการจะใช้โอกาสจากการที่ข้าวมีแนวโน้มราคาดีขึ้น เร่งระบายข้าวในช่วงต้นฤดูผ่านการขายในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(จีทูจี) โดยขณะนี้มีเป้าหมายที่จะขายให้กับ 9 ประเทศ รวม 1.7 ล้านตัน เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน, จีน, อินเดีย, มาดากัสการ์, อิหร่าน และฮ่องกง ซึ่งบางประเทศแสดงความสนใจซื้อแล้ว และบางประเทศอยู่ระหว่างการเจรจา

สำหรับการส่งออกข้าวไทยล่าสุด ตั้งแต่ 1 ม.ค.-13 พ.ย.52 มีปริมาณส่งออก 7.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,325 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนราคาส่งออกในเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นตันละ 10-20 เหรียญสหรัฐ โดยราคาล่าสุด ณ วันที่ 13 พ.ย. ข้าวหอมมะลิไทย 100% ชั้น 2 อยู่ที่ตันละ 860-1,000 เหรียญสหรัฐ, ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตันละ 545-550 เหรียญสหรัฐ, ข้าวขาว 5% ตันละ 515-525 เหรียญสหรัฐฯ และข้าวนึ่ง 100% ตันละ 555-575 เหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศยังติดตามการทวงหนี้ข้าวจากรัสเซียที่ค้างชำระรัฐบาลไทยประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ มาตั้งแต่ปี 37 ซึ่งมีหลายรูปแบบที่จะขอให้รัสเซียชำระคืนหนี้ให้แก่ไทย และมั่นใจว่าจะได้รับชำระคืนแน่นอน เช่น ให้รัสเซียจ่ายเป็นเงินสด และไทยจะนำเงินไปซื้อสินค้ารัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ