เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวปาฐกถาในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ว่า เฟดจะติดตามดูสถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ แต่เบอร์นันเก้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น
"เฟดมีแนวโน้มที่จะดำเนินการบางอย่างเพื่อปรับมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเราติดตามดูสถานการณ์เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าอยู่ในเวลานี้อย่างใกล้ชิด เพราะดอลลาร์ที่อ่อนค่ากำลังส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งในอีกด้านหนึ่งนั้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นอาจสะท้อนถึงการฟื้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ" เบอร์นันเก้กล่าว
เบอร์นันเก้กล่าวว่า แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น แต่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ขณะที่เศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหลายคนมองว่า แม้การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นประโยชน์ต่อยอดขายสินค้าส่งออกของสหรัฐ เพราะจะช่วยให้สินค้าของสหรัฐมีราคาถูกลงในตลาดต่างประเทศนั้น แต่การที่ดอลลาร์ร่วงลงในระยะเวลาที่นานเกินไปอาจทำให้สหรัฐเผชิญกับภาวะฟองสบู่และวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่และจะยิ่งทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์มากขึ้นในอนาคต
ในประเด็นดังกล่าว เบอร์นันเก้กล่าวว่า "เรื่องนี้ยากที่จะอธิบาย แต่ถ้าภาวะฟองสบู่ก่อตัวขึ้น ผมก็ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก เพราะเรามีนโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือที่พร้อมจะสกัดกั้นฟองสบู่และเงินเฟ้อ และนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีเป้าหมายชัดเจนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยปลอดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงมีเป้าหมายกระตุ้นการจ้างงานและลดภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน"
เบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในปีหน้า แต่เตือนว่าจะมีปัจจัยลบหลายด้านเข้ามาขัดขวางกระบวนการฟื้นตัว รวมถึงอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 10% ซึ่งผลพวงของอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นคือภาคครัวเรือนจะลดการใช้จ่าย และภาวะที่ธุรกิจขาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก
"จีดีพีของสหรัฐที่ขยายตัว 3.5% ต่อปีในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการขยายตัวไตรมาสแรกหลังจากหดตัวมากว่า 1 ปี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณการฟื้นตัวแล้วและจะฟื้นตัวต่อไปอีกในปีหน้า ซึ่งหากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในทุกภาคส่วน อัตราว่างงานก็จะค่อยๆปรับตัวลง" เบอร์นันเก้กล่าว
การที่เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกนั้น ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ และทำให้สัญญาทองคำตลาด COMEX ทะยานขึ้น 22.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,139.20 ดอลลาร์/ออนซ์ อีกทั้งหนุนสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 2.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้
เจย์ ไบรสัน นักวิเคราะห์จากบริษัท Wells Fargo Securities กล่าวกับเอพีว่า "ถ้อยคำของเบอร์นันเก้ขัดแย้งกันในตัวเอง เพราะเบอร์นันเก้แสดงท่าทีสนับสนุนนโยบายดอลลาร์แข็งค่า แต่กลับยืนกรานว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประธานเฟดไม่ได้ดำเนินการในเชิงปฏิบัติ ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของเบอร์นันเก้ทำให้ผมและนักวิเคราะห์อีกหลายคนเชื่อว่าเฟดจะไม่ดำเนินการตามธนาคารกลางของประเทศอื่นๆที่จะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้น"