สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจะมีธนาคารกลางอีกหลายประเทศที่เข้าซื้อทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากธนาคารกลางมอริเชียสและอินเดียได้เข้าซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้สัญญาทองคำปิดบวกเพียงเล็กน้อย
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,139.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 20.00 เซนต์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,127.80-1,142.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 18.387 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.30 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.133 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,462.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 372.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.00 ดอลลาร์
โดนัลด์ เซลกิ้น นักวิเคราะห์จากบริษัท National Securities Corp ในนิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนเชื่อมั่นว่าจะมีธนาคารกลางอีกหลายประเทศที่เข้าซื้อทองคำ หลังจากธนาคารกลางอินเดียเข้าซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟในปริมาณ 200 เมตริคตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุดมีรายงานว่าธนาคารกลางมอริเชียสได้ซื้อทองคำ 2 เมตริกตันจากไอเอ็มเอฟ มูลค่าประมาณ 71.7 ล้านดอลลาร์
คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟอนุมัติให้นำทองคำ 403.2 เมตริคตันออกขาย โดยมีเป้าหมายที่จะระดมทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มประเทศยากจน และเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 400 ล้านดอลลาร์ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยไอเอ็มเอฟเป็นผู้ถือครองทองคำรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐและเยอรมนี
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ทางองค์กรพร้อมแล้วที่จะขายทองคำโดยตรงให้กับธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก และหากจำเป็นก็จะนำออกขายในตลาดเปิด