กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 ยูนิต/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% แตะที่ 600,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551
ขณะที่อัตราการอนุญาตก่อสร้างบ้านร่วงลง 4% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.9%
โจ ไฮเดอร์ ประธานบริษัท Dawson Wealth Management ในเมืองคลีฟแลนด์ของสหรัฐกล่าวว่า "ตัวเลขการสร้างบ้านที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ จำนวนคนตกงานที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้บริษัทรับสร้างบ้านไม่กล้าที่จะลงทุนมากนัก ขณะที่กลุ่มผู้ซื้อบ้านก็ไม่กล้าที่จะนำเงินออกมาใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะเปราะบาง"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ตัวเลขสร้างบ้านที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 11.11 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 10,426.31 จุดเมื่อคืนนี้