สหรัฐเผยดัชนี CPI เดือนต.ค.พุ่งเกินคาด 0.3% ขณะ CPI พื้นฐานดีดขึ้น 0.2%

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 19, 2009 09:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโกค (CPI) เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%

รายงานของกระทรวงแรงงานระบุว่า ราคาพลังงานในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เพิ่มขึ้น 6.3% และราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนราคาอาหารขยับขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค.

นอกจากนี้ ราคารถยนต์และรถบรรทุกเพิ่มขึ้น 3.4% ทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปี 2523 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่ของรัฐบาล ส่วนค่าธรรมเนียมการบินของสายการบินต่างๆเพิ่มขึ้น 1.7% สะท้อนถึงต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี CPI เดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐได้เพิ่มความวิตกกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ออกมาแสดงความกังวลในเรื่องดังกล่าวก่อนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จีนและญี่ปุ่นระบุว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำของเฟดกำลังส่งผลให้เกิดการเก็งกำไรในรูปการทำอาร์บิทราจสกุลเงินดอลลาร์ และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้านสินทรัพย์ ซึ่งผลที่ตามมาคือการขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่แสดงความวิตกกังวลต่อการวิพากษ์วิจารย์ดังกล่าว โดยเขากล่าวว่าเฟดไม่กังวลหากภาวะฟองสบู่ก่อตัวขึ้น เพราะเฟดมีนโยบายอัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือที่พร้อมจะสกัดกั้นฟองสบู่และเงินเฟ้อ และนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟดมีเป้าหมายชัดเจนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจโดยปลอดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงมีเป้าหมายกระตุ้นการจ้างงานและลดภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ