สิงคโปร์คาด GDP ปี 53 ขยายตัว 3-5% ส่งสัญญาณถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 19, 2009 09:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ จะขยายตัวขึ้น 3-5% ในปีหน้า แต่ยังคงคาดการณ์จีดีพีปี 2552 ว่าจะหดตัว 2.5-2.0%

MTI ได้เปิดเผยการประมาณการเศรษฐกิจครั้งล่าสุดว่า จีดีพีไตรมาส 3 ปี 2552 ขยายตัวในอัตรา 0.6%ต่อปี เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่หดตัว 3.3%ต่อปี และหากเทียบเป็นรายไตรมาส จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 14.2%ต่อไตรมาส และขยายตัว 21.7%ต่อไตรมาส ในไตรมาส 2

"เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวแทบทุกภาคส่วน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช่วยหนุนเศรษฐกิจในประเทศส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยด้วย จึงทำให้ทางกระทรวงเชื่อว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะขยายตัวสอดคล้องกับประเทศอื่นๆในปีหน้า นอกจากนี้ เราคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะยังคงขยายตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ดีมานด์ที่ยังคงอ่อนแอในประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวปานกลางในปีหน้า โดยคาดว่ายอดส่งออกของเราในหน้าจะขยายตัวเพียง 3-5% เท่านั้น" MTI กล่าวในแถลงการณ์

นอกจากนี้ MTI คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ปีหน้าจะขยายตัวราว 2.5-3.5% เนื่องจากรัฐบาลนำงบประมาณไปใช้จ่ายในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่า การคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีของทางการสิงคโปร์เป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า สิงคโปร์จะดำเนินการตามอีกหลายประเทศทั่วโลกในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้อินเดียได้ส่งสัญญาณการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศปรับเพิ่มการสำรองสภาพคล่อง 25% จากเดิม 24% ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้ง

นายลิม ฮอง เกียง รมว. MTI กล่าวว่า ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียซึ่งมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้เร็วกว่าในภูมิภาคอื่นๆ จำเป็นต้องศึกษายุทธศาสตร์การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของตนเองอย่างระมัดระวัง โดยชี้ว่าเศรษฐกิจของ 21 ชาติสมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) มีการฟื้นตัวในระดับที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องอาศัยกรอบเวลาที่แตกต่างกันในการถอนมาตรการดังกล่าว เพราะการเร่งถอนมาตรการก่อนเวลาอันควรอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจประสบภาวะชะงักงัน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ