กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 13 พ.ย.ลดลง 900,000 บาร์เรล แตะที่ 336.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับลงเพียง 300,000 บาร์เรล
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 หลังต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือนต.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 1.7% แตะที่ 600,000 หลังต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโกค (CPI) เดือนต.ค.พุ่งขึ้น 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.1%
-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ จะขยายตัวขึ้น 3-5% ในปีหน้า แต่ยังคงคาดการณ์จีดีพีปี 2552 ว่าจะหดตัว 2.5-2.0%
-- กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นได้ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากฝรั่งเศส ซึ่งรวมถึงตับห่าน ซึ่งญี่ปุ่นนำเข้าจากฝรั่งเศสถึง 60% เนื่องจากพบไข้หวัดนกระบาดในฟาร์มเป็ดแห่งหนึ่ง
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้เดินทางเยือนเกาหลีใต้ในวันนี้ ตามกำหนดการณ์เดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย 4 ประเทศ ซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นทริปสุดท้ายก่อนที่ผู้นำสหรัฐจะเดินทางกลับประเทศ ขณะที่หลายฝ่ายจับตาว่า การเดินทางเยือนเอเชียครั้งนี้ สหรัฐจะสามารถทำให้เอเชียมองว่า เขาไม่เห็นด้วยกับลัทธิการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองหรือไม่ หลังจากที่ธุรกิจยานยนต์ของสหรัฐไม่เห็นด้วยกับการทำข้อตกลงการค้าเสรี
-- ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่สุดของโลก อาจประกาศรับซื้อขาวเพิ่มอีก 1 ล้านเมตริกตันก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ยอดซื้อข้าวพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-- สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีนคาดการณ์ว่า ผลผลิตเหล็กกล้าในจีนซึ่งเป็นทั้งผู้ใช้และผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก อาจจะมีอยู่มากกว่าดีมานด์ในปีนี้ ซึ่งเป็นเหตุให้ยอดส่งออกเหล็กกล้าของจีนพุ่งขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
-- โรงกษาปณ์ของอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ได้ผลิตเหรียญทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในไตรมาส 3 หลังจากที่อุปสงค์ทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าผลักดันให้นักลงทุนหันมาเก็งกำไรทอง
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ และประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ ยืนยันว่าทั้ง 2 ประเทศจะหาทางกดดันเกาหลีเหนือให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
-- อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นเตอร์ไพรซ์ สิงคโปร์ (ไออี สิงคโปร์) หน่วยงานส่งเสริมการค้าของรัฐบาลสิงคโปร์เผย ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่น้ำมัน (NODX) ของสิงคโปร์ในไตรมาส 3 ปรับตัวลดลงในอัตรา 7.8% ต่อปี หลังจากที่ทรุดตัวลง 14% ในไตรมาสก่อนหน้านี้
-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขยายตัว 14.2%ต่อปี ในไตรมาส 3 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวต่อปีครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอย
-- คณะกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันนี้ ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ คือ วิธีการประเมินสภาพเศรษฐกิจและราคาของญี่ปุ่น เนื่องจากข้อมูลล่าสุดของทางรัฐบาลชี้ให้เห็นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นในไตรมาส 3 ขณะที่มีความกังวลเรื่องเงินฝืดมากยิ่งขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมจะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.1%
-- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกแถลงการณ์ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก มูดีส์อาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิและตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (hybrid) จำนวน 775 รายการที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ 170 แห่ง ใน 36 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ารวมกัน ราว 4.50 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงตราสารหนี้ที่ออกโดยโกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงการค้าเสรีกับเกาหลีใต้ หลังจากที่การเจรจาต้องหยุดชะงักลงเพราะสหภาพและกลุ่มล็อบบี้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐมองว่า ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่สามารถเปิดตลาดเกาหลีใต้ได้อย่างเพียงพอ
-- โซนี่ คอร์ป ประกาศจะทำให้ธุรกิจโทรทัศน์และเกมของบริษัทกลับมาทำกำไรให้ได้อีกครั้งภายในปีงบการเงินหน้าซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2554 ด้วยการเดินหน้าลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อเนื่องและเพิ่มรายได้
-- ประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถานทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 วาระ 5 ปี ที่กรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศวันนี้ โดยมีนายอับดุล ซาลัม อาซิมี ผู้พิพากษาสูงสุดเป็นผู้ทำพิธี ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติหลายร้อยคนจากกว่า 40 ประเทศ และการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด