ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังข้อมูลศก.อ่อนแอหนุนนลท.แห่ซื้อดอลล์

ข่าวต่างประเทศ Friday November 20, 2009 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดและยอดการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านร่วงลงหนักสุดในรอบ 12 ปี ซึ่งกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4916 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4964 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.38% แตะที่ 1.0133 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0095 ฟรังค์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.51% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6657 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.6743 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่ดอลลาร์ร่วงลง 0.40% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.010 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.370 เยนต่อดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.12% แตะที่ 0.9190 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9294 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.98% แตะที่ 0.7311 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7459 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Foreign Exchange Analytics ในรัฐคอนเน็กติกัตของสหรัฐกล่าวกับเอพีว่า "นักลงทุนเริ่มขาดความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จึงเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ"

สมาคมธนาคารเพื่อการจำนองของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านในรอบสัปดาห์ที่แล้วดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 12 ปี แม้อัตราดอกเบี้ยจำนองระยะ 30 ปีร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือนก็ตาม ขณะที่ตัวเลขการสร้างบ้านเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 10.6% แตะที่ 529,000 ยูนิต/ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7%

สำนักงานคอนเฟอเรอนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 103.8 จุด ซึ่งแม้ว่าเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2550 แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อภาคการธนาคารของสหรัฐ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกแถลงการณ์ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของธนาคารพาณิชย์ทั่วโลก โดยมูดีส์อาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ด้อยสิทธิและตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน (hybrid) จำนวน 775 รายการที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ 170 แห่ง ใน 36 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นมูลค่ารวมกัน ราว 4.50 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงตราสารหนี้ที่ออกโดยโกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค

องค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (โออีซีดี) ออกรายงานคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางที่สำคัญของโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยจนถึงช่วงปลายปี 2553

ขณะที่ซิตี้กรุ๊ป โกลบอล มาร์เก็ตส์ เจแปน อิงค์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะยังตกอยู่ในภาวะเงินฝืด ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีดิ่งลงแตะระดับ 1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ