นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า เงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าในขณะนี้ ไม่ได้กระทบต่อการแข่งขันของภาคการส่งออก ซึ่งจะเห็นว่า ยอดการส่งออกได้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจนล่าสุด ต.ค. ยอดการส่งออกติดลบน้อยที่สุดในรอบปี สะท้อนถึงความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยไม่ได้เกิดจากการแข่งขันด้านราคา หรือเป็นความได้เปรียบเสียเปรียบจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เป็นเรื่องของคุณภาพสินค้าเป็นหลัก
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้ามาดูแลค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศคู่ค้า คู่แข่ง แม้การแทรกแซงของ ธปท.จะทำให้เงินสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น และกลายเป็นภาระต้นทุนทางเศรษฐกิจ
"ต้องดูผลทางเศรษฐกิจ เพราะแบงก์ชาติรับภาระในการแทรกแซงเงินบาท แต่ผู้ส่งออกแข่งขันได้ ก็มีผลต่อเศรษฐกิจ ประชาชนก็มีงานทำ ก็ต้องประเมินเปรียบเทียบความคุ้มค่า" นายกรณ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ภายในปีนี้ พิจารณาทบทวน 5 มาตรการ 6 เดือนเพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน หลังจากจะสิ้นสุดมาตรการในเดือน ธ.ค.52
ทั้งนี้จะได้เสนอรายละเอียดข้อมูลต่อครม.ถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจ จากผลที่ได้จากมาตรการดังกล่าว ปัญหาค่าครองชีพประชาชน รวมถึงภาระเงินงบประมาณ เพื่อให้ ครม.ตัดสิน
"ผมคงบอกแทน ครม.ไม่ได้ว่าจะต่ออายุหรือไม่ แต่จะได้ให้ข้อมูลต่างๆ ให้พิจารณาทั้งหมด" รมว.คลัง กล่าว
นอกจากนี้ ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะครบ 1 ปีการทำงานของรัฐบาล จะมีการประเมินผลการทำงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปี รวมถึงเป้าหมายการทำงานในอนาคต โดยยอมรับว่าในแง่การดูแลเศรษฐกิจเห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานเพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจ จากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก การดำเนินนโยบายของรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาความเป็นอยู่ประชาชน มีการกำหนดกรอบการปฎิรูปเศรษฐกิจโดยรวม ใน 3 ด้าน คือ การปฎิรูปภาคประชาชน การปฎิรูปภาคเอกชน และการปฎิรูปภาคราชการ