แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก ระบุว่า สกุลเงินหยวนของจีน เงินวอนเกาหลีใต้ และดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 3 สกุลเงินที่มีมูลค่าน่าดึงดูดใจมากที่สุดในเวลานี้ เนื่องจากธนารกลางของทั้ง 3 ประเทศใช้มาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อ
เชีย เหลียง เหลียน ผู้จัดการกองทุนของพิมโคกล่าวว่า "ธนาคารกลางในเอเชียเริ่มพิจารณาเรื่องการยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำและมีแนวโน้มที่จะปรับสกุลเงินให้แข็งค่าขึ้น ผลพวงของการที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อยับยั้งภาวะถดถอยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะคุกคามเศรษฐกิจไปจนถึงปีหน้า ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางในเอเชียพิจารณาการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงิน รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและค่าเงิน"
เมื่อไม่นานมานี้อินเดียได้ส่งสัญญาณการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการออกคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศปรับเพิ่มการสำรองสภาพคล่อง 25% จากเดิม 24% ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วถึง 2 ครั้ง และล่าสุดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ จะขยายตัวขึ้น 3-5% ในปีหน้า
ทั้งนี้ การคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีของทางการสิงคโปร์เป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า สิงคโปร์เตรียมดำเนินการตามอีกหลายประเทศทั่วโลกในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินวอนเกาหลีใต้พุ่งขึ้นไปแล้ว 7.9% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 รองจากเงินรูเปียห์อินโดนีเซียเมื่อเทียบกับ 10 สกุลเงินหลักๆของเอเชีย ขณะที่ดอลลาร์สิงคโปร์พุ่งขึ้น 4% และเงินหยวนทรงตัวอยู่ที่ 6.83 หยวน/ดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551