นายกรณ์ จาติวณิชย รมว.คลัง กล่าวยืนยัน กระทรวงการคลังสนับสนุนให้มีการแปรสัญญาสัมปทานก่อนการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3จี เพื่อให้โครงสร้างการให้บริการเกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันการออกใบอนุญาตของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)จะต้องชี้แจงให้ได้ถึงเงื่อนไขการเปิดประมูล และทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์จากเงินรายได้นับแสนล้านบาท
"กทช.เป็นหน่วยงานอสิระ ก็ต้องตอบโจทย์ว่าเงื่อนไขประมูล ที่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้นับแสนล้านบาท เพราะแม้ กทช.เป็นหน่วยงานอสิระ รัฐไม่แทรกแซงการทำงาน แต่ไม่ใช่อิสระจากนโยบายของรัฐ แต่ต้องห่วงประโยชน์ประชาชนด้วย"นายกรณ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า แนวทางที่นายกรัฐมนตรี ต้องการให้มีการแก้ไขสัญญาสัมปทานเพื่อให้เกิดการล้างไพ่ สร้างความเสมอภาค เพื่อให้อุตสหกรรมเดินหน้าต่อไปได้ มีความธรรมแก่ผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาต และสำหรับรายใหม่ที่จะเข้ามา ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้เสนอแนวทางการแก้ไขสัมปทานต่อที่ประชุม ครม.เร็วๆ นี้ โดยเป็นแนวทางที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และประชาชน
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถหาทางออกของการแก้ไขสัญญาสัมปทานได้ กระทรวงการคลังพร้อมที่จะนำระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม มาใช้ใหม่ แม้จะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด และไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งโครงสร้างก็ตาม
"หากแก้ปัญหาสัมปทานไม่ได้ ก็อาจจะกลับมาเก็บภาษีโทรคมนาคม แต่เราไม่อยากทำ เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาโดยมีการสร้างเงื่อนไขใหม่" รมว.คลัง กล่าว