ศูนย์วิจัยกสิกรคาดสภาพคล่องลดลงต่อเนื่อง แต่ยังสูงพอรองรับกิจกรรมศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 20, 2009 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สภาพคล่องในเดือน ต.ค.52 ยังลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิหลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของ 14 ธนาคารพาณิชย์ไทย มีจำนวน 5.584 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.92 พันล้านบาท ขณะที่ยอดเงินฝากที่ยังคงลดลงจากเดือนก่อนหน้า 2.85 พันล้านบาท จาก ก.ย. 52 ที่อยู่ 6.367 ล้านล้านบาท มาเป็น 6.364 ล้านล้านบาท ในเดือน ต.ค.

และสินทรัพย์สภาพคล่อง (รวมเงินสด เงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น และเงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์) ณ สิ้น ต.ค.52 ได้ปรับลดลงอีกเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยมีจำนวน 2.11 ล้านล้านบาท ลดลง 1.14 หมื่นล้านบาท มาจากการลดลงของเงินลงทุนสุทธิในตลาดเงินระยะสั้น ขณะที่เงินลงทุนสุทธิในหลักทรัพย์และเงินสดเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพคล่องในงบดุลของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปรับลดลง โดยเป็นผลจากเงินให้สินเชื่อสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่หนุนความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจ รวมถึงเงินฝากที่ยังคงขยับลดลง เนื่องจากผู้ออมยังคงมีการดึงเงินฝากออกไปลงทุนในช่องทางการลงทุนอื่นที่เสนอผลตอบแทนจูงใจ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวม หุ้น ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยอาจมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เป็นผลจากความต้องการสินเชื่อที่น่าจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับตามภาวะเศรษฐกิจ และการเร่งปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ช่วงปิดงวดบัญชีสิ้นปี ขณะที่ เงินฝากอาจยังคงมีแนวโน้มถูกโยกไปลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินอื่นที่มีระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นที่ยอมรับได้สำหรับผู้ออม รวมถึงการที่ผู้ออมอาจจะต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนเพิ่มเติม ได้แก่ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ผลิตภัณฑ์ประกัน และอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยอาจมีแนวโน้มลดลง แต่สภาพคล่องที่มีจำนวนประมาณ 2 ล้านล้านบาท ยังนับว่าเป็นระดับที่สูงและน่าจะเพียงพอสำหรับรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้

สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทยอาจจะลดลงช้ากว่าที่คาดได้ หากเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเผชิญกับภาวะสะดุดหรือไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่คาดหวังกันไว้ โดยเฉพาะในส่วนของเศรษฐกิจไทย จากประเด็นความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง ที่ย่อมมีผลกระทบต่อความต้องการสินเชื่อ ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลต่อพฤติกรรมการลงทุนของผู้ออมที่น่าจะโน้มเอียงไปหาช่องทางการลงทุนที่ค่อนข้างปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เช่นการฝากเงินไว้ที่ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งก็จะส่งผลให้สภาพคล่องกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่อีกด้านหนึ่งหากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่ประเมินไว้ จนส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์คาดการณ์ถึงแนวโน้มสภาพคล่องในอนาคตที่อาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ กรณนี้ก็อาจจะนำมาสู่การแข่งขันกันอีกระลอกของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษเพื่อรักษาฐานลูกค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ