นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ว่า รัฐบาลกำลังเร่งพิจารณาโครงการอิลิทการ์ด ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ให้สิทธิพิเศษในราคา 1,000,000 บาท สำหรับผู้ถือบัตรสามารถใช้สิทธิพิเศษด้านการท่องเที่ยวในการเข้าพักโรงแรมชั้นดี การตรวจลงตราเข้าเมือง การใช้สนามกอล์ฟ และสปา โดยบริษัทจะหาสมาชิกให้ได้ประมาณ 2,500 คน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งจนถึงขณะนี้เงินก้อนดังกล่าวใกล้หมดแล้ว ขณะที่บุคคลที่เป็นสมาชิกยังสามารถใช้สิทธิพิเศษได้อีกมากมาย ส่งผลให้โครงการนี้เป็นโครงการที่ขาดทุนค่อนข้างมากเกือบทุกปี รัฐบาลจึงต้องเข้ามาช่วยรองรับเนื่องจากไม่สามารถยกเลิกโครงการนี้ได้ เพราะจะขัดต่อข้อกฎหมายจนเกิดการฟ้องร้องขึ้น รวมทั้งประเทศไทยจะเสียชื่อเสียงด้วย เนื่องจากรัฐบาลในอดีตได้มีการรับรองสิทธิต่างๆ ไว้ ในเบื้องต้นรัฐบาลจึงจะแก้ไขปัญหาด้วยการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่สนใจทำธุรกิจซื้อโครงการออกไป โดยจะกำหนดเป็นเงื่อนไขว่าต้องรับไปทั้งหนี้สิน ทรัพย์สิน และความรับผิดชอบทางกฎหมาย ขณะที่ภาครัฐจะสนับสนุนในส่วนที่เป็นสิทธิที่จำเป็นต้องใช้อำนาจของรัฐ เช่น สิทธิพิเศษในการตรวจลงตราในการเข้าเมือง สำหรับเงื่อนไขสมาชิกใหม่ก็ให้ภาคเอกชนเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง
ทั้งนี้ จะมอบหมายให้กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำหนดเงื่อนไขเพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามารับซื้อโครงการนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยหลังจากนี้ประมาณ 60 วันจะมีความชัดเจนว่ามีภาคเอกชนสนใจซื้อโครงการกี่ราย