ธปท.หารือคลังเตรียมกำหนดกรอบเงินเฟ้อปี 53 ก่อนเสนอ ครม.ใน ธ.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 23, 2009 15:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัมพร แสงมณี ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 53 ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ และสามารถประกาศใช้ได้ทันที

ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะค่อย ๆ พลิกฟื้นขึ้นมาจากติดลบมาตลอดทั้งปี กลายเป็นค่อนมาทางบวกหรือบวกได้ในช่วงไตรมาส 4/52 แต่อาจจะบวกไปไม่ถึง 0.5% ต่ำกว่ากรอบอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่ ธปท.กำหนดไว้ที่ 0.5-3.0%

แม้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนต.ค. 52 ยังติดลบ -0.1% แต่เดือน พ.ย. -ธ.ค. น่าจะบวกขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 2/52 และไตรมาส 3/52 อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย แต่ ธปท.ยังไม่เห็นสัญญาณของการเกิดเงินฝืด หรือเป็นปัญหาต่อการขยายตัวเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว

นายอัมพร กล่าวว่า สาเหตุที่อัตราเงินเฟ้อติดลบในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง กระทบกับอุปสงค์ในประเทศผ่านช่องทางการส่งออก ขณะที่ในประเทศนั้น ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน และโครงการเรียนฟรี 15 ปี ทำให้เงินเฟ้อลดลงจากระดับปกติ 1-1.8% ในช่วงไตรมาส 2-3 ซึ่งหากไม่มีมาตรการ หรือหักผลจากมาตรการออกไป อัตราเงินเฟ้อจะเป็นบวก 1.7% ในไตรมาส 2/52 และบวก 0.6% ในไตรมาส 3/52

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปี 53 คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพฯจะสิ้นสุดลงในปลายปีนี้แล้ว หากตัดมาตรการดังกล่าวออกไปอัตราเงินเฟ้อจะเร่งตัวขึ้นค่อนข้างแรง ประกอบราคาน้ำมันที่เร่งตัวขึ้นด้วย โดย ธปท.ประเมินราคาน้ำมันในตลาดโลกในปีหน้าที่ 75-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายอัมพร กล่าวว่า หากใช้กรอบเงินเฟ้อเดิม 0.5-3.0% ก็จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมายช้าไปราว 1 ไตรมาส จากเดิมธปท.คาดว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะเข้าเป้าในไตรมาส 1/53 ก็อาจจะเลื่อนไปเป็นไตรมาส 2/53

อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องและมีโมเมนตัมที่ดี นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายคงไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่ทั้งหมดขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจว่าฟื้นตัวยั่งยืนหรือไม่อย่างไร และนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพราะเศรษฐกิจไทยและกลุ่มประเทศ G3 ยังมีความเสี่ยงที่โมเมนตัมอาจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ