โจนาธาน สไตน์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท วิสดอมทรี อินเวสต์เมนท์ อิงค์ คาดการณ์ว่า ค่าเงินหยวนของจีนยังอ่อนค่าอยู่ราว 30-35% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะกดดันให้ธนาคารกลางจีนต้องประกาศขึ้นค่าเงินหยวนอย่างเป็นทางการในที่สุด
"ผมคาดว่าท้ายที่สุดแล้วธนาคารกลางจีนจะต้องปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่า แม้จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม เนื่องจากเงินหยวนยังอ่อนค่าอยู่ราว 30-50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์" สไตน์เบิร์กกล่าว
ธนาคารกลางจีนได้ตรึงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับเดิมนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2551 หลังจากปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 21% เมื่อ 3 ปีก่อนหน้านั้น เพื่อช่วยบริษัทส่งออกของจีนให้อยู่รอดได้ในยามที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหู จิ่นเทาของจีน ปรับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่ามากขึ้น บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลของ China Foreign Exchange Trade System ว่า ณ เวลา 09.48 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ เงินหยวนทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.8291 หยวน/ดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี U.S. Dollar Index ร่วงลง 6% เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศคู่ค้าสหรัฐ
แนวโน้มที่แข็งค่าของเงินหยวนทำให้กรีนวูดส์ แอสเซท แมเนจเมนท์ บริษัทจัดการกองทุนของจีนที่มีผลประกอบการสูงสุดในปีนี้ คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นจีนจะพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 35% ในปีหน้า เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินหยวนที่แข็งค่าและผลประกอบการภาคการชนที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่านานาประเทศบีบให้ขึ้นค่าเงินหยวนราว 4-6% ภายในปลายปีหน้าเพื่อลดภาวะขาดดุลการค้าทั่วโลก