บริษัท ซิติค แปซิฟิค ซึ่งเป็นบริษัทรายใหญ่สุดของรัฐบาลจีนที่เดินหน้าลงทุนในธุรกิจต่างๆ กำลังทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลกับเหมืองสินแร่เหล็กเกรดต่ำในออสเตรเลีย เพื่อทำกำไรจากดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้น และกระจายการลงทุนในอุปทาน
สำนักงานการเกษตรและทรัพยากรของออสเตรเลียเปดเผยว่า งบประมาณที่ใช้ไปในโครงการสินแร่เหล็กนั้นสูงถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงกว่าปีที่แล้ว 36% ขณะที่ซิติค แปซิฟิค เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำสัญญาในข้อตกลงด้านการขายสำหรับโครงการ 4 พันล้านดอลลาร์
จีนได้ทุ่มเงินลงทุนไปกับการพัฒนาเหมือง ขณะที่ริโอ ทินโต ได้คาดการณ์ว่า โรงเหล็กจะมีการใช้สินแร่เหล็กจำนวนมากกว่าที่ออสเตรเลียส่งออกให้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า การที่มีการทุ่มทุนไปกับการพัฒนาเหมืองเช่นนี้จะช่วยต้านการผูกขาดตลาดของริโอ ทินโต และบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งร่วมทุนดำเนินการโครงการผลิตในออสเตรเลีย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ปีเตอร์ ชิลตันเจ้าหน้าที่ของคอนสเตลเลชั่น แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า หากการร่วมทุนระหว่างบีเอชพีและริโอ ทินโตมีความคืบหน้า จีนก็จะได้รับแรงกดดันมากขึ้น ยังมีโครงการเหล็กขนาดเล็กอีกมากที่พร้อมจะเดินการผลิต หากจีนได้เข้ามาควบคุมเหมืองโดยตรงมากกว่านี้ และส่งเสริมให้มีการจับมือเป็นพันธมิตรกับออสเตรเลีย อย่างน้อยก็จะเป็นการรับประกันว่า จีนจะมีซัพพลายจำนวนมาก
เป๋าสตีล กรุ๊ป และอันชาน ไอออน แอนด์ สตีล กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทเหล็กที่ช่วยพัฒนาโครงการเหมืองต่างๆที่ริโอ ทินโต เนื่องจากราคาเหล็กได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3 เท่าแล้วในรอบ 10 ปี หลังจากที่ดีมานด์เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง รถ และเครื่องซักผ้าพุ่งสูงขึ้น
เอวี ฮัมโบร เจ้าหน้าที่ของแบล็คร็อค อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า จีนพยายามที่จะลงทุนในโครงการเหมืองระยะยาว ซึ่งโครงการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากแบงค์ในออสเตรเลีย ยุโรป หรือสหรัฐ เพราะสามารถกู้เงินจากแบงค์ของจีนได้