FED ออกรายงานหั่นคาดการณ์อัตราว่างงานสหรัฐเหลือ 9.7% ยืนยันคงดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 25, 2009 10:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 3-4 พ.ย. โดยคณะกรรมการเฟดยอมรับว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของเฟดอาจก่อให้เกิดการเก็งกำไรที่รุนแรงในตลาดการเงิน และอาจขัดขวางเป้าหมายเงินเฟ้อต่ำของเฟด

"คณะกรรมการเฟดบางคนมองว่าอาจเกิดผลกระทบด้านลบที่เกิดจากการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำและจากการที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการมองว่าสภาวะดังกล่าวอาจทำให้ตลาดการเงินตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกกดดันจากกระแสเก็งกำไร และจะทำให้เศรษฐกิจทั้งระบบเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในที่สุด" รายงานการประชุมของเฟดระบุ

ในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3-4 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับย้ำว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และระบุว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ เฟดกล่าวว่า การที่คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่กรอบ 0 - 0.25% นั้นมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น โดยข้อมูลที่เฟดรวบรวมได้บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีบางภูมิภาคที่เศรษฐกิจยังคงซบเซาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว คณะกรรมการเฟดยังเห็นชอบที่จะลดวงเงินในการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ให้เหลือเพียง 1.75 แสนล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 2 แสนล้านดอลลาร์

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดให้คำมั่นสัญญาว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับกล่าวว่าแม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น แต่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในปีหน้า แต่เตือนว่าจะมีปัจจัยลบหลายด้านเข้ามาขัดขวางกระบวนการฟื้นตัว รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลให้ภาคครัวเรือนจะลดการใช้จ่าย และยังทำให้ธุรกิจขาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมในครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2553 และ 2554 ดดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ช่วง 9.3 - 9.7% ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 9.5 - 9.8%

บลูมเบิร์กรายงานว่า การเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดมีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่สอง โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 2.8% ต่อปี เมื่อเทียบกับการประมาณการครั้งก่อนที่ระบุว่าขยายตัว 3.5% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นรุนแรง

ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นสูงเกินคาดถึง 18.2% แตะที่ 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2542 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ยอดขาดดุลการค้าปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ย.คือ ราคาน้ำมันในต่างประเทศที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ